Page 8 - บทที่ 2 การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร
P. 8

46 | G E L 1 1 0 1     ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า ไ ท ย







                       106)  การจะเข้าใจความหมายของค าหรือประโยคได้นั้นสามารถพิจารณาจากความสัมพันธ์กับค า
                       อื่น ๆ หรือบริบทในประโยค  เช่น พิจารณาจากหน้าที่ของค า เช่น ประโยค “นักเรียนเก่งเพราะอ่าน

                       เก่ง”  ค าว่า เก่ง ตัวแรกเป็นค าขยายค านาม ส่วน เก่ง ค าที่สองเป็นค าขยายกริยา  หรือพิจารณา

                       จากค าที่ปรากฏร่วมกัน เช่น ค าว่า “ล ่าสัน”  จะใช้กับประธานที่เพศชาย  เป็นต้น
                                             2.1.4.2  ค าไทยแท้ส่วนใหญ่มีพยางค์เดียว   ค าไทยแท้ส่วนใหญ่มัก

                       เป็นค าพยางค์เดียวและมีความหมายเดียวชัดเจน สามารถเข้าใจได้ทันที เช่น พ่อ แม่ กิน นั่ง นอน

                       ด า  แดง ขาว  คลอง  หมู่  หมา  ไก่  แมว เป็นต้น  ค าที่น ามาจากภาษาต่างประเทศมักมีหลาย

                       พยางค์และมีตัวการันต์  เช่น ค าไทยที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต เช่น  บัลลังก์  ศัพท์  วิญญาณ

                       จักรวาล  เกษียณ  อัศจรรย์  อาทิตย์  อาจารย์   หรือค ายืมที่มาจากภาษาเขมร เช่น  ส ารวจ  เผชิญ
                       ก าเหน็ด  ก าเดา  บ าเพ็ญ  เป็นต้น

                                             2.1.4.3  ภาษาไทยมีลักษณะนามใช้มาก  โดยลักษณนามที่ใช้จะ

                       เรียงตามหลังจ านวนตัวเลข  เช่น  ไก่ 1 ตัว   บ้าน 2 หลัง   เรือ 3 ล า  เป็นต้น  และยังวางไว้หลัง

                       ค านามเพื่อแสดงลักษณะค านามที่อยู่ข้างหน้า เช่น นกตัวนั้นก าลังบิน  บ้านหลังนี้ใหญ่มาก  เป็น

                       ต้น   สุธิวงศ์  พงศ์ไพบูลย์ (2531,  หน้า 111) กล่าวถึงการใช้ลักษณะนามของไทยซึ่งเป็น
                       ลักษณะเฉพาะของภาษาไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า “ภาษาไทยมีค าลักษณนามมากเกินพอ

                       เช่นเดียวกับภาษาจีนซึ่งเป็นภาษาค าโดดด้วยกัน  จริงอยู่ภาษาอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงก็มีค าลักษณนาม

                       บ้าง เช่น มลายู  เขมร พม่า แต่ไม่มากเหมือนภาษาไทย”  การที่ภาษาไทยมีลักษณนามใช้มากยัง
                       แสดงถึงวัฒนธรรมทางภาษาที่มีความประณีต การแยกแยะประเภทให้เหมาะสมกับการใช้ด้วย

                                             2.1.4.4  ค าไทยแท้มีตัวสะกดตรงตามมาตรา  ค าไทยแท้จะมี

                       พยัญชนะท้ายตรงตามมาตราตัวสะกด อาทิ มาตราตัวสะกดแม่กก เช่น ค าว่า กก  หมาก  มาก

                       ศอก  ผลัก   มาตราตัวสะกดแม่กน เช่น ค าว่า กิน  ดิน  เดือน  นอน  เล่น  มาตราตัวสะกดแม่กม

                       เช่น  ก้ม  จาม  ผอม  ผม  ลม  เป็นต้น  ส่วนค าไทยที่น ามาจากภาษาต่างประเทศมักมีตัวสะกดไม่
                       ตรงตามมาตรา เช่น ค าที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต เช่น เนตร  เขต จิต  โจร  มิตร  เพศ  เป็นต้น

                                             2.1.4.5  ค าในภาษาไทยมีเสียงสูงต ่าตามเสียงวรรณยุกต์

                       ภาษาไทยมีเสียงวรรณยุกต์เป็นตัวก ากับการออกเสียงและความหมาย  โดยการเปลี่ยนวรรณยุกต์
                       จะท าให้ความหมายเปลี่ยนไปด้วย เช่น คา  ค่า  ค้า,  มา  ม่า  ม้า,  เสือ  เสื่อ  เสื้อ,  จา  จ่า  จ้า  จ๊า

                       จ๋า  เป็นต้น

                                             2.1.4.6  ภาษาไทยมีการสร้างค าเพื่อให้มีความหมายมากขึ้น  การ

                       เพิ่มค าของไทยนั้นมีหลายลักษณะ  ไม่ว่าจะเป็นการประสมค า   การซ ้าค า   การซ้อนค า  การ

                       สมาสหรือการสนธิ  ซึ่งท าให้ค าไทยมีเพิ่มขึ้นและมีความหมายสอดคล้องกับบริบทของการใช้มาก
   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13