Page 20 - ประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ
P. 20

แหงคําวินิจฉัยขึ้นชี้แจงพรอมดวยหลักฐานใหชัดแจง  โดยเพงเล็งพยายามใหประจักษแกผูพิพากษา

               ศาลลาง และคูกรณีวา ศาลสูงกลับแกคําพิพากษาศาลลาง หรือคงยืน เพราะเหตุใด
                              อนึ่ง ในการวินิจฉัยประเด็นขอพิพาทใด ๆ  ไมวาในชั้นศาลลางหรือศาลสูง ถาเปน
               ขอกฎหมายก็ควรยกบทกฎหมายหรือคดีแบบอยาง  หรือหลักเกณฑแหงกฎหมายอางไวดวย ถาวา

               มีคําพิพากษาซึ่งประกอบดวยเหตุผลและหลักฐานเชนนี้ ยอมทําใหคูกรณีมีความเลื่อมใส
               และเปนแบบบรรทัดฐานตอไป”


               บทบัญญัติ


                              ขอ  ๑๓  ในการบังคับคดีตามคําพิพากษาหรือคําสั่ง ผูพิพากษาจักตองควบคุมให
               การออกหมายหรือคําบังคับตรงตามคําพิพากษาหรือคําสั่งและจักตองออกโดยพลัน


               คําอธิบาย
                              (๑)  ในคดีอาญา  :

                               (ก)  เมื่อคดีถึงที่สุดแลว หากมิไดมีการออกหมายจําคุกหรือกักขังเมื่อคดีถึงที่สุดทันที
               จําเลยก็ยังคงเปนผูตองขังระหวางการพิจารณาของศาล และมิใชนักโทษเด็ดขาดอันทําใหจําเลย

               เสียสิทธิและประโยชนตาง ๆ  อันพึงมีพึงไดในระหวางนั้นไป การเลื่อนชั้นของนักโทษเด็ดขาดก็ดี
               การขอพระราชทานอภัยโทษตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษก็ดี ก็กระทํามิได
               เพราะจําเลยยังมิไดเปนนักโทษเด็ดขาด

                               กรณีที่ไมมีการออกหมายจําคุกหรือกักขังเมื่อคดีถึงที่สุดใหจําเลยนี้ สวนมากเปนคดี
               ที่มีจําเลยหลายคนหรือเปนคดีหลายสํานวนรวมการพิจารณาและจําเลยบางคนอุทธรณฎีกา

               แตบางคนไมไดอุทธรณฎีกาหรือมิฉะนั้นก็เปนคดีที่ไดมีการสงตัวจําเลยไปคุมขังอยูในเขตของศาลอื่น
               และมักจะเกิดจากความบกพรองของเจาหนาที่ศาล เชน หลงลืม ไมคนหาสํานวน ไมจัดทําหนังสือ
               สงคําพิพากษาไปใหศาลที่จําเลยตองจําคุกอยูในเขตศาลนั้นอานคําพิพากษาใหจําเลยฟง และผูพิพากษา

               เจาของสํานวนหรือผูพิพากษาหัวหนาศาลก็ปลอยปละละเลยไมไดติดตามดูแลการปฏิบัติงาน
               ของเจาหนาที่ศาลเปนเหตุใหเกิดความเสียหายแกจําเลยอยางมาก

                               (ข)  ในคดีที่มีจําเลยหลายคนในความผิดฐานเดียวกันหรือตอเนื่องกัน ถาความผิด
               สําหรับจําเลยคนใดเด็ดขาดถึงที่สุดแลว เมื่อจําเลยคนนั้นรองขอ  ศาลก็ออกหมายจําคุก หรือกักขัง
               เมื่อคดีถึงที่สุดสําหรับจําเลยคนนั้นได  (ตามนัยคําสั่งคํารองของศาลฎีกาที่  ๘๖/๒๕๐๐)

                               (ค)  การออกหมายจําคุกหรือกักขังเมื่อคดีถึงที่สุดไมตรงกับคําพิพากษา โดยเฉพาะ
               การอางบทมาตราที่จําเลยกระทําความผิดไมตรงกับคําพิพากษา  อาจทําใหจําเลยไมไดรับพระราชทาน

               อภัยโทษลดโทษตามที่ตนมีสิทธิ
                               (ง)  ในกรณีที่จําเลยกระทําความผิดหลายกรรมควรระบุแยกใหชัดในหมายจําคุก
               หรือกักขังเมื่อคดีถึงที่สุดวาความผิดกรรมใดศาลลงโทษเทาใด  โดยใชวงเล็บกําหนดโทษที่ลงไว

               ทายบทมาตราอันเปนความผิดสําหรับกรรมนั้น ๆ ทั้งนี้ เพื่อเปนการขจัดปญหาในกรณี
               ที่มีการพระราชทานอภัยโทษและในการพิจารณาเลื่อนชั้นนักโทษ
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25