Page 22 - ประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ
P. 22

(๓) เมื่อมีเหตุประการอื่นที่เกี่ยวกับตัวผูพิพากษา อันอาจทําใหการพิจารณา

               พิพากษาคดีนั้นเสียความยุติธรรม  :      แมจะไมปรากฏเหตุที่คูความอาจคัดคานผูพิพากษาที่นั่ง
               พิจารณาคดีนั้นไดตามกฎหมายดังกลาวขางตน หากผูพิพากษาผูนั่งพิจารณาคดีนั้นเองเห็นวา
               การที่ตนจะนั่งพิจารณาคดีนั้นตอไปอาจจะทําใหคูความฝายใดฝายหนึ่งคลางแคลงใจ หรือตนเอง

               เห็นวาไมสมควรที่จะนั่งพิจารณาคดีนั้นตอไปดวยเหตุผลสวนตัวซึ่งมีอยูนานัปการ เปนตนวา
               ตนเองเปนเพื่อนสนิทหรือเปนอริกับคูความฝายใดฝายหนึ่งมากอน เปนหรือเคยเปนคูหมั้นของคูความ

               ฝายใดฝายหนึ่ง หรือเคารพนับถือคูความฝายใดฝายหนึ่งเสมือนเปนญาติผูใหญ ผูพิพากษา
               ก็พึงถอนตัวจากการพิจารณาพิพากษาคดีนั้น
                              (๔)  การจูงใจผูพิพากษาซึ่งพิจารณาพิพากษาคดีนั้นในภายหลัง :   เมื่อเจาของ

               สํานวนคดีคนเดิมถอนตัว ผูพิพากษาผูรับโอนคดีอาจตองการทราบขอเท็จจริงเกี่ยวกับการถอนตัว
               ของเจาของสํานวนคดีคนเดิมเพื่อประกอบการพิจารณาคดีดวย ในการชี้แจงใหผูรับโอนคดีทราบ

               ก็ควรจะกลาวแตเฉพาะขอเท็จจริงเกี่ยวกับการถอนตัวและเรื่องอื่น ๆ  อันเกี่ยวกับคดีนั้นเทาที่จําเปน
               แตจักตองไมออกความเห็นหรือชักจูงใจใหผูรับโอนคดีเอนเอียงไปในทางใดทางหนึ่ง ที่อาจทําให
               เสียความยุติธรรมได

                              อนึ่ง  ผูพิพากษาที่เคยเปนองคคณะในการพิจารณาคดีไมวาในชั้นใดก็ตาม แลวตอมา
               ในระหวางการพิจารณาคดี ศาลไดมีหมายเรียกถึงผูพิพากษาดังกลาวเพื่อใหไปเบิกความเปนพยาน

               ในคดีที่ตนเคยนั่งเปนองคคณะในการพิจารณาคดีนั้น  ผูพิพากษาก็พึงปฏิเสธที่จะเปนพยานในคดี
               ดังกลาว  โดยทําหนังสือใหเหตุผลแหงการปฏิเสธตอศาลที่มีหมายเรียก วาตนไดเคยนั่งเปนองคคณะ
               ในการพิจารณาคดีนั้น




                                                        หมวด ๓
                                      จริยธรรมเกี่ยวกับการปฏิบัติหนาที่ในทางธุรการ


               บทบัญญัติ


                              ขอ  ๑๕  เพื่อใหงานธุรการของศาลมีประสิทธิภาพ  ผูพิพากษาจักตองปฏิบัติหนาที่
               ดวยความซื่อสัตยสุจริต  และอยางเต็มความสามารถ  ทั้งจักตองควบคุมใหผูอยูใตบังคับบัญชา

               ปฏิบัติหนาที่ดวยความซื่อสัตยสุจริต  และอยางเต็มความสามารถเชนเดียวกัน

               คําอธิบาย

                              (๑)  จริยธรรมขอนี้วาดวยการปฏิบัติหนาที่ของผูพิพากษาในทางธุรการของศาล
               การปฏิบัติราชการในทางธุรการของศาลนี้ พระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา ๕ บัญญัติให

               ประธานศาลฎีกามีหนาที่วางระเบียบราชการฝายตุลาการของศาลยุติธรรม เพื่อใหกิจการ
               ของศาลยุติธรรมดําเนินไปโดยเรียบรอยและเปนระเบียบเดียวกัน และมีอํานาจใหคําแนะนํา
               แกผูพิพากษาในการปฏิบัติตามระเบียบวิธีการตางๆ  ที่กําหนดขึ้นโดยกฎหมาย หรือโดยประการอื่น
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27