Page 92 - 09_กฎหมายอนทเกยวของกบการปฏบตหนาท_Neat
P. 92

๘๕




                             คําÊÑè§ÈÒÅ»¡¤ÃͧÊÙ§ÊØ´·Õè ó÷/òõõò  ผูเสียหายมีหนังสือลงวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๐
                 แจงใหหนวยงานรับผิดในผลแหงละเมิดจากกรณีที่เจาหนาที่บุกรุกและลักทรัพยในที่ดิน โดยหนวยงาน

                 ก็ไดออกใบรับคําขอใหเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๐ พรอมกับมีหนังสือแจงวาไดรับเรื่องไวแลว ถือวา
                 ผูเสียหายไดใชสิทธิในหนวยงานของรัฐพิจารณาชดใชคาสินไหมทดแทนแลว
                             คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒÅ»¡¤ÃͧÊÙ§ÊØ´·Õè Í.ùñ/òõô÷  วินิจฉัยวาใบตอบรับของไปรษณีย

                 ที่สงคืนใหผูฟองคดีมิอาจถือไดวาเปนใบรับคําขออันเปนหลักฐานที่ผูถูกฟองคดี (สํานักงานอัยการสูงสุด)
                 เปนผูออกใหเปนเพียงหลักฐานทางไปรษณียวาไดมีการสงซองเอกสารทางไปรษณียใหผูรับแลวเทานั้น

                 มิไดบงบอกวาเอกสารในซองที่ถึงผูรับเปนเอกสารอะไร จึงตองมีการออกใบรับคําขอของหนวยงาน
                 เพื่อมิใหเกิดปญหาโตเถียงในภายหลังได เมื่อใบตอบรับของไปรษณียที่สงคืนใหผูฟองคดีมิอาจถือ
                 ไดวาเปนใบรับคําขออันเปนหลักฐานที่ผูถูกฟองคดีเปนผูออกใหตามมาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง ดังนั้น

                 การที่ผูถูกฟองคดีไมออกใบรับคําขอใหผูฟองคดี จึงเปนการละเลยตอหนาที่ตามมาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง
                             (๓) การพิจารณาคําขอตองกระทําโดยไมชักชาและหากหนวยงานของรัฐที่รับคําขอให

                 ชดใชคาสินไหมทดแทนนั้น เห็นวาเปนเรื่องที่เกี่ยวกับตนก็ใหแตงตั้งคณะกรรมการเพื่อดําเนินการตอไป
                 โดยไมชักชา กลาวคือ หนวยงานของรัฐตองพิจารณาคําขอที่ไดรับใหแลวเสร็จภายในหนึ่งรอยแปดสิบวัน
                 หากเรื่องใดไมอาจพิจารณาไดทันภายในกําหนด ตองรายงานปญหาและอุปสรรคใหรัฐมนตรีเจาสังกัด

                 หรือกํากับหรือควบคุมดูแลหนวยงานของรัฐนั้นทราบ และหากจําเปนก็สามารถขอขยายระยะเวลา
                 ออกไปได แตรัฐมนตรีจะพิจารณาอนุมัติใหขยายระยะเวลาใหอีกไดไมเกินหนึ่งรอยแปดสิบวัน เชน

                             คําÊÑè§ÈÒÅ»¡¤ÃͧÊÙ§ÊØ´·Õè ó÷/òõõò ผูเสียหายมีหนังสือแจงใหหนวยงานของรัฐ
                 รับผิดในผลแหงละเมิดจากกรณีที่เจาหนาที่บุกรุกและลักทรัพยในที่ดิน หนวยงานนั้นไดออก
                 ใบรับคําขอใหเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๐ พรอมกับมีหนังสือลงวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๐ แจงวา

                 ไดรับเรื่องไวแลว ถือวาผูเสียหายไดใชสิทธิใหหนวยงานของรัฐพิจารณาชดใชคาสินไหมทดแทนแลว
                 เมื่อผูถูกฟองคดี (กรมทางหลวง) ไมพิจารณาดําเนินการใหแลวเสร็จภายในหนึ่งรอยแปดสิบวัน (คือวันที่

                 ๑๔ เมษายน ๒๕๕๑) ตามมาตรา ๑๑ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจาหนาที่
                 พ.ศ.๒๕๓๙ ผูเสียหายยอมใชสิทธิฟองคดีตอศาลปกครองได
                             (๔) เมื่อหนวยงานของรัฐพิจารณาคํารองขอของผูเสียหายแลว หนวยงานของรัฐตองทํา

                 คําสั่งเกี่ยวกับผลการพิจารณาและตองแจงคําสั่งดังกลาวใหแกผูเสียหายทราบ  ซึ่งการทําคําสั่งและการแจง
                 คําสั่งดังกลาวนั้น พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจาหนาที่ พ.ศ.๒๕๓๙ มิไดกําหนด

                 วิธีการไวเปนการเฉพาะจึงตองปฏิบัติตามแบบการจัดทําคําสั่งในทางปกครอง ตามหมวด ๒ สวนที่ ๔
                 รูปแบบและผลของคําสั่งทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙
                 ดังนี้

                                 - หนวยงานอาจทําคําสั่งเปนหนังสือ หรือวาจา หรือโดยการสื่อความหมาย
                 ในรูปแบบอื่นก็ได แตตองมีขอความหรือความหมายที่ชัดเจนเพียงพอที่จะเขาใจได
   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97