Page 33 - การจัดการความขัดแย้ง
P. 33
๒๔
คนไขหรือผูใหบริการกับผูรับบริการหรือญาติที่นาจะดีก็เปลี่ยนแปลงไปเปนฝายตรงขามกัน ความเชื่อถือ
ไววางใจหมดไปสิ้น จนในที่สุดคนไขหรือผูรับบริการเมื่อไมไดรับคําตอบที่พอใจก็ไปหาสื่อมวลชน
เพราะมองพฤติกรรมของผูใหบริการเชิงลบเมื่อพูดกันไมรูเรื่องก็ตองประจานกันลงขาวหนังสือพิมพ
ออกโทรทัศน ฝายผูใหบริการก็ตองไมพอใจอยางมากเพราะทําใหเสียชื่อเสียง ก็เกิดมีการฟองรอง
กันขึ้นในที่สุด
เมื่อคูกรณีเกิดความรูสึกที่จะตองเอาชนะหรือเอาคืนใหไดความรูสึกเชิงลบที่คิดจะแกแคน
เอาคืนก็เกิดขึ้น จนกลายเปนวงเวียนเชิงลบ (Spiral of Negativity) จนถึงขั้นประหัตประหารกัน
ไดอยูบอย คูสมรสที่มีความขัดแยงกันโดยสวนใหญก็เปนเรื่องธรรมดาและมักจะหาทางออกกลับมา
คืนดีกันไดเสมอ แตก็มีคูสมรสที่ความขัดแยงเลยไปกลายเปนความเคียดแคน ถึงอาจเขนฆากันก็เห็น
มากขึ้นในสังคมไทย
วงเวียนเชิงลบจะเหมือนกับนํ้าตกที่ตกกระแทกไหลเวียนตอเนื่องกันไป แตเปนนํ้าเดือด
หรือนํ้ามันเดือดที่คอยจะลุกโชติชวงสาดใสกัน เปนกลไกที่เคลื่อนตัวตอเนื่องเหมือนไมมีทางจบสิ้น
ที่เริ่มจาก ๑) พฤติกรรมบางอยางที่ไปกระทบ ไมตรงกับความคาดหวัง ๒) มุมมองของคนอื่นที่ขัดแยง
ก็จะอานพฤติกรรมนั้นเปนเชิงลบ ๓) มุมมองของความสัมพันธที่คาดหวังวาหมอจะพูดดีๆ หมอเอง
ก็คาดหวังวาผูปวยหรือญาติไมนาจะแสดงพฤติกรรมกลาวหา ก็ยิ่งทําใหเกิดมุมมองเชิงลบมากขึ้น
ซึ่งจะหมุนไปเรื่อยๆ จนเกิดการทําลายลางหรือแตกออกเปนเสี่ยงๆ คูกรณีตางมองกันในมุมมองที่ลบ
และเลวรายขึ้นเรื่อยๆ
ÀҾǧàÇÕ¹àªÔ§Åº (Spiral of Negativity)