Page 34 - การจัดการความขัดแย้ง
P. 34
๒๕
¾ÄμÔ¡ÃÃÁà¾×èÍËÒ·Ò§ÍÍ¡àÁ×èÍà¡Ô´¤ÇÒÁ¢Ñ´áÂŒ§
เปนลักษณะของพฤติกรรมที่เมื่อเกิดความขัดแยงแลวมีการพัฒนาการเพื่อหาทางออก
ในรูปแบบตางๆ แลวแตวัฒนธรรมทองถิ่น วัฒนธรรมองคกรหรือกลุมบุคคลเหลานั้นเติบโตขึ้นมา
ไดเรียนรูและมองเห็น การจัดการความขัดแยงในรูปแบบใด ซึ่งอาจจะสรุปออกไดเปน ๕ แนวทาง
ดังนี้
ñ) ¡ÒÃᢋ§¢Ñ¹ËÃ×ÍÇԸբͧ©Ñ¹ (Competing ËÃ×Í My Way)
นั่นคือความพยายามที่จะหาทางเอาชนะกันถาเปนเรื่องของธุรกิจก็อาจจะเปน
กระบวนการเอาชนะกัน โดยการประมูล ใครใหราคาดีกวาก็ไดไป เปนวิถีทางเพื่อจะผลักดันใหบรรลุ
เปาประสงคของเราหรือของฉันเทานั้น มักจะเปนวิธีการของผูมีอํานาจที่จะใชอํานาจโดยทุกวิถีทาง
โดยไมคํานึงถึงผูอื่น วิธีการนี้บางครั้งก็อาจจะจําเปนตองใชในเวทีที่เต็มไปดวยการแขงขันในโลกยุคปจจุบัน
หรือบางครั้งจะมีผูบอกวาตองลุกขึ้นตอสูเพื่อหลักการหรือสิทธิของตน แตอาจจะไมใชทางเลือกที่ดีที่สุด
ò) ¡ÒÃËÅÕ¡àÅÕè§ËÃ×ÍÂÍÁ¶Í (Avoiding ËÃ×Í No Way)
เปนวิธีการที่พยายามหลีกเลี่ยงปญหาหรือยอมถอย พบวาสังคมไทยและสังคมเอเชีย
รวมถึงประเทศกลุมละตินอเมริกันที่เปนสังคมพวกกลุมนิยม (Collectivist) จะนิยมใชวิธีนี้ ทะเลาะกัน
ก็จะขอกลับไปนอนบานดีกวา ลักษณะดังกลาวมองวาเปนการพยายามรักษาความสัมพันธหรือรักษา
หนาตา (Face-Saving) ของคนอื่น สังคมไทยมีคําพูดวา “เปนความกัน ยอมกินขี้หมาดีกวา” นั่นคือ
ไมชอบเปนความหรือฟองรองกัน ฉะนั้นเราจึงเห็นภาพของการเลี่ยงปญหา การถอนตัว
พบวาลักษณะดังกลาวจึงทําใหคนไทยไมคอยจะพยายามเผชิญหนาเจรจากัน
ตอหนาจะบอกวา “ไมมีอะไรหรอก” แตลับหลังก็จะอีกเรื่องหนึ่ง สังคมไทยจึงนิยมใชวิธีนินทา (Gossip)
หรือพูดลับหลัง (Talk behind your back) ซึ่งไมไดทําใหความขัดแยงหมดไป เมื่อความขัดแยงหลายๆ
เรื่องสะสมไปนานๆ พอบางครั้งเกิดเรื่องเล็กนอยก็จะระเบิดตูมตามออกมาไดโดยที่นักวิชาการ
มักเรียกวา ทฤษฎีขนนก กลาวคือเรื่องเบาๆ ตกลงมาแตกลายเปนเรื่องใหญโตไดนั่นเอง
ó) ¡ÒûÃйջÃйÍÁËÃ×Íẋ§¤¹ÅФÃÖè§ (Compromising ËÃ×Í Half Way)
เปนวิธีการประสานความรวมมืออยางหนึ่ง มักจะเปนวิธีการที่เมื่อนึกอะไรไมออก
ก็ใชวิธีการแบงครึ่ง บางคนใชคําวาเดินสายกลาง ทําใหผูตัดสินหรือผูพูดรูสึกสบายใจวายุติธรรมที่สุดแลว
แตถามวายุติธรรมจริงไหม แนนอนอาจจะยุติธรรมหรือไมก็ได บางครั้งก็แบงครึ่งจริงๆ ไมได เชน
ชิ้นของเลนและการแบงครึ่งก็ทําใหไดเพียงครึ่งเดียวของที่ตองการเทานั้น แตละฝายจึงตางก็ไดไมเต็ม
อยางที่ควรจะได
ô) ¡ÒÃÂÍÁμÒÁ ËÃ×Í áÅŒÇáμ‹¼ÙŒãËÞ‹ (Accommodating ËÃ×Í Your Way)
ก็เปนอีกวิธีที่สังคมชอบปฏิบัติ มีความสนใจในการรักษาความสัมพันธสูงมาก
มีความสนใจที่จะผลักดันในสวนที่ตัวเองตองการนอย ยอมรับแนวคิดของคนอื่นโดยยกเลิกความตองการ
ของตนเอง คือ ยอมรับเชื่อฟงคําตัดสินหรือคําสั่ง บางครั้งก็ถูกมองวาเปนคนออนแอ ในระบบสังคมไทย
ที่เชื่อผูใหญที่เปนผูใหญกวา เรามักจะยอมออนตามดังคําพูดที่วา “เดินตามหลังผูใหญ หมาไมกัด”