Page 43 - การจัดการความขัดแย้ง
P. 43

๓๔




                          ๓.  การสรางเปาประสงค หรือคานิยมรวม (Build a superodinate Gold) ในบางครั้ง
              ตองพยายามทําใหเกิดความรวมตัวกันหรือมีคานิยมหรือเปาประสงคของบุคคลใหเปนสวนหนึ่ง

              และเปาประสงคหลักขององคการ เพื่อความเจริญกาวหนาขององคการในอนาคต ซึ่งวิธีการไดมา
              ซึ่งเปาประสงคหลักหรือคานิยมรวมนั้นจะมาจากการที่บุคคลมีสวนรวมในการกําหนดขึ้น โดยมี

              การยอมรับและความพึงพอใจเปนที่ตั้ง
                          ๔.  พิจารณาธรรมชาติของความเปนอิสระซึ่งกันและกัน (Examine the nature of

              Independence) ผูบริหารตองพยายามเปลี่ยนลักษณะความเปนอิสระที่ทําใหเกิดการแขงขันกัน
              เปนการสงเสริมสนับสนุนกัน เพราะการยอมรับในเปาประสงคหรือคานิยมรวมของบุคคลและการ

              สงเสริมสนับสนุนนั้นมักจะเปนไปในทิศทางเดียวกัน  ถาทั้งสองสิ่งนี้เกิดการแยกกันก็จะเกิด
              เปนแนวโนมการเกิดความขัดแยง

                          ๕.  ตองพรอมที่จะเสี่ยง (Take Risk) ขั้นตอนที่สําคัญประการหนึ่งในการเปลี่ยนแปลง
              สถานการณความขัดแยงใหเกิดความรวมมือรวมใจกันก็คือ ตองเสี่ยงตอความสูญเสียหรือความผิดหวัง

              ดังนั้น ตองเตรียมบุคคลใหเกิดความรูสึกมั่นใจ และเปนที่ยอมรับของผูรวมงานดวย โดยเฉพาะ

              บุคคลที่มีความออนไหวและไมมีความมั่นใจในตัวเองจําเปนจะตองใชวิธีการที่แยบยล ซึ่งก็คือ
              การทําใหเกิดการยอมรับนับถือซึ่งกันและกันในความพยายามเพื่อพัฒนาความเขมแข็งมั่นคงใหแก
              ผูที่มีความออนไหว และออนแอกวา

                          ๖.  แสดงความมีอํานาจ (Demonstrate Power) เพื่อการยุติการเอาเปรียบซึ่งกันและกัน

              บริหารตองพยายามหาทางปองกันสิ่งเหลานั้น ดวยการใชกําลังอํานาจที่มีอยู
                          ๗.  ตองจํากัดขอบเขตในสิ่งที่ทําสําเร็จแลว (Confine to fail accompli) เมื่อกลุมที่มี

              ความขัดแยงยอมรับสถานการณที่เขาสามารถอยูรวมกันไดแลว ความรูสึกแหงความรวมมือก็จะเริ่มตนขึ้น
              เมื่อเวลาผานไปก็จะเริ่มรูสึกพึงพอใจซึ่งกันและกัน การจํากัดขอบเขตรวมกันจะชวยในการพัฒนา

              การติดตอสื่อสารและความเขาใจที่ดี ยอมรับซึ่งกันและกัน ลดอคติตางๆ สาเหตุแหงความขัดแยง
              ก็จะลดลง

                          ๘.  การสรางความเชื่อมั่นรวมกัน (Build Mutual Trust) แตละคนตองแลกเปลี่ยน
              ความเชื่อและความคิดเห็น เปดใจซึ่งกันและกัน พรอมที่ใหและรับแนวคิดตางๆ อยางจริงใจ

                          ๙.  ความสมดุลถูกตองในการจูงใจ (Legitimize complex Motivation) เนืื่องจากบุคคล
              แตละคนมีความตองการและการจูงใจที่แตกตางกัน ซึ่งพบวามีความสัมพันธกับความขัดแยงเมื่อการ

              จูงใจของกลุมสองกลุมเปนไปในทิศทางเดียวกัน
                          ๑๐. การสรางความเห็นอกเห็นใจ (Build Empathy) ในสถานการณแหงความขัดแยงนั้น
              แตละกลุมจะตระหนักถึงเปาประสงค ความสนใจและความรูสึกสําหรับกลุมตนเอง นอยครั้งที่กลุมอื่น

              จะเขาใจดวย ดังนั้น ตองใหแตละคนสามารถที่จะคิดเขาใจความตองการของผูอื่นก็จะสามารถลด
              ความขัดแยงได
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48