Page 23 - Learning Points from HROD TALK
P. 23

Learning Points from HROD TALK   18



               Kaizen ซึ่งเป็นแนวคิดที่น ำมำใช้ในกำรบริหำรกำรจัดกำร แนวคิดเรื่องสมรรถนะ (Competency)
               อย่ำงมีประสิทธิผล โดยมุ่งเน้นที่กำรมีส่วนร่วมของ

               พนักงำนทุกคน ร่วมกันแสวงหำแนวทำงใหม่ๆ เพื่อ           แนวคิดเกี่ยวกับสมรรถนะหรือขีดควำมสำมำรถ
               ปรับปรุงวิธีกำรท ำงำนและสภำพแวดล้อมในกำรท ำงำน  ในกำรท ำงำน (Competency) เกิดขึ้นในช่วงต้นของ
               ให้ดีขึ้นอยู่เสมอ หัวใจส ำคัญอยู่ที่ต้องมีกำรปรับปรุงอย่ำง  ศตวรรษที่ 1970 โดยนักวิชำกำรชื่อ David McClelland
               ต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด (Continuous Improvement)   ซึ่งได้ท ำกำรศึกษำวิจัยว่ำท ำไมบุคลำกรที่ท ำงำนใน
                                                             ต ำแหน่งเดียวกันจึงมีผลงำนที่แตกต่ำงกัน McClelland
                       จำกปัจจัยที่กล่ำวมำข้ำงต้น สำมำรถอธิบำย จึงท ำกำรศึกษำวิจัยโดยแยกบุคลำกรที่มีผลกำรปฏิบัติงำน
               กรอบแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องที่ใช้ในกำรวิเครำะห์ ดีออกจำกบุคลำกรที่มีผลกำรปฏิบัติงำนพอใช้ แล้วจึง

               สำระที่ได้จำกกำรสัมมนำ ได้ดังนี้              ศึกษำว่ำบุคลำกรทั้ง 2 กลุ่ม มีผลกำรท ำงำนที่แตกต่ำง
                       1. แนวคิดเรื่องสมรรถนะ (Competency)   กันอย่ำงไร ผลกำรศึกษำท ำให้สรุปได้ว่ำ บุคลำกรที่มีผล
                       2. ทฤษฎีกรอบควำมคิดเติบโต (Growth  กำรปฏิบัติงำนดีจะมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่ำสมรรถนะ
                         Mindset)                            (Competency) (จิรประภำ อัครบวร, 2549 : 58) และใน

                       3. ทฤษฎีแรงจูงใจ (Motivation Theory)   ปี ค.ศ. 1973 McClelland ได้เขียนบทควำมวิชำกำรเรื่อง
                       4. ทฤษฎีกำรสร้ำงองค์ควำมรู้ด้วยตนเอง  “Testing for Competence rather than Intelligence”
                         (Constructionism Theory)            ซึ่งถือเป็นจุดก ำเนิดของแนวคิดเรื่องสมรรถนะที่สำมำรถ
                       5. แนวคิดไคเซ็น (Kaizen)              อธิบำยบุคลิกลักษณะของคนว่ำเปรียบเสมือนกับภูเขำ

                                                             น้ ำแข็ง (Iceberg)





















                       จำกภำพที่ สำมำรถอธิบำยได้ว่ำคุณลักษณะ บุคคลที่มีต่อตนเอง (Self-Image) คุณลักษณะส่วน

               ของบุคคลนั้นเปรียบเสมือนภูเขำน้ ำแข็งที่ลอยอยู่ใน บุคคล (Trait) และแรงจูงใจ (Motive) ส่วนที่อยู่เหนือ
               น้ ำ โดยมีส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนน้อยลอยอยู่เหนือน้ ำซึ่ง น้ ำเป็นส่วนที่มีควำมสัมพันธ์กับเชำวน์ปัญญำของ
               สำมำรถสังเกตและวัดได้ง่ำย ได้แก่ ควำมรู้สำขำต่ำงๆ  บุคคล ซึ่งกำรที่บุคคลมีควำมฉลำดสำมำรถเรียนรู้องค์
               ที่ได้เรียนมำ (Knowledge) และส่วนของทักษะ ได้แก่  ควำมรู้ต่ำงๆ และทักษะได้นั้น ยังไม่เพียงพอที่จะท ำให้
               ควำมเชี่ยวชำญ ควำมช ำนำญพิเศษด้ำนต่ำงๆ (Skill)  มีผลกำรปฏิบัติงำนที่โดดเด่น จึงจ ำเป็นต้องมี

               ส ำหรับส่วนของภูเขำน้ ำแข็งที่จมอยู่ใต้น้ ำซึ่งเป็นส่วนที่ แรงผลักดันเบื้องลึก คุณลักษณะส่วนบุคคล
               มีปริมำณมำกกว่ำนั้น เป็นส่วนที่ไม่อำจสังเกตได้ ภำพลักษณ์ของบุคคลที่มีต่อตนเอง และบทบำทที่
               ชัดเจนและวัดได้ยำกกว่ำ และเป็นส่วนที่มีอิทธิพลต่อ แสดงออกต่อสังคมอย่ำงเหมำะสมด้วย จึงจะท ำให้

               พฤติกรรมของบุคคลมำกกว่ำ ได้แก่ บทบำทที่ บุคคลกลำยเป็นผู้ที่มีผลงำนโดดเด่นได้
               แสดงออกต่อสังคม (Social role) ภำพลักษณ์ของ
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28