Page 26 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 26

กระเจานา


                กระเจานา            สารานุกรมพืชในประเทศไทย          คำร์เพลมีขนสั้นนุ่ม ก้ำนช่อผลยำว 1.5-2 ซม. ผลย่อยรูปรีกว้ำง เส้นผ่ำนศูนย์กลำง
                Corchorus aestuans L.                                ประมำณ 6 มม. สุกสีแดงและด�ำ ก้ำนผลย่อยยำวเท่ำ ๆ ก้ำนช่อ ส่วนมำกมีเมล็ดเดียว
                วงศ์ Malvaceae                                         พบที่อินเดีย จีนตอนใต้ และภูมิภำคอินโดจีน ในไทยพบทุกภำค ภำคใต้ถึง
                   ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 1 ม. มีขนละเอียด หูใบ 3 อัน รูปเส้นด้ายยาวไม่เท่ากัน   ชุมพร ขึ้นตำมป่ำดิบแล้ง ป่ำเบญจพรรณ หรือบนเขำหินปูน ควำมสูงถึงประมำณ
                ใบเรียงเวียน รูปไข่ ยำว 3-8 ซม. ขอบจักซี่ฟัน คู่ล่ำงคล้ำยรยำงค์หรือเดือยสั้น ๆ   1200 เมตร เปลือกเหนียวใช้ท�ำเชือกหรือกระสอบ ดอกใช้ท�ำน�้ำหอม
                แผ่นใบมีขนยำวทั้งสองด้ำน เส้นโคนใบข้ำงละ 1 เส้น ก้ำนใบยำว 1-2.5 ซม. ดอกออก  เอกสารอ้างอิง
                เดี่ยว ๆ หรือเป็นช่อกระจุกตำมซอกใบหรือตรงข้ำมใบ ใบประดับคล้ายหูใบ ก้ำนดอก  Li, B. and M.G. Gilbert. (2011). Annonaceae. In Flora of China Vol. 19: 691, 694.
                สั้น กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปคล้ายเรือ ยำว 3-5 มม. ปลายมีรยางค์สั้น ๆ กลีบดอก
                5 กลีบ รูปไข่กลับ ยำวเท่ำ ๆ กลีบเลี้ยง เกสรเพศผู้จ�านวนมาก ยำวประมำณ 3 มม.
                รังไข่มีขน ก้ำนเกสรเพศเมียเป็นหลอด ยอดเกสรจัก 5 พู ผลแห้งแตก ยำว 1.5-3 ซม.
                มี 3-5 สัน จักเป็นพู ปลายพูแยก 2 แฉก เมล็ดขนำดเล็กจ�ำนวนมำก
                   พบที่อเมริกำ แอฟริกำ เอเชีย และออสเตรเลีย เป็นวัชพืชหรือปลูกเป็นพืช
                เส้นใย เปลือกใช้ท�ำเชือก ล�ำต้นใช้เลี้ยงสัตว์ แก้อักเสบในโรคปอดบวม

                   สกุล Corchorus L. เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Tiliaceae ปัจจุบันอยู่วงศ์ย่อย Grewioideae   กระเจียน: ดอกสีเขียว กลีบยำวเท่ำ ๆ กลีบเลี้ยง แผ่นกลีบหนำ มีขนประปรำย ใบประดับติดทน ผลย่อยก้ำนยำว
                   มีประมาณ 100 ชนิด ในไทยมี 4 ชนิด รวมถึงปอกระเจา C. capsularis L. ชื่อสกุล  (ภำพ: พบพระ ตำก - PK)
                   เป็นภาษาละตินหมายถึงเมล็ดพืชที่ขึ้นในป่า
                                                                     กระเจี๊ยบ
                  เอกสารอ้างอิง                                      Hibiscus sabdariffa L.
                   Phengklai, C. (1993). Tiliaceae. In Flora of Thailand Vol. 6(1): 30.
                   Tang, Y., M.G. Gilbert and L.J. Dorr. (2007). Tiliaceae. In Flora of China Vol.   วงศ์ Malvaceae
                      12: 529.
                                                                       ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 2 ม. ล�าต้นสีแดงอมม่วง มีขนยำวตำมหูใบ ก้ำนใบ และ
                                                                     ริ้วประดับ หูใบรูปเส้นด้าย ใบที่โคนรูปไข่ ใบตามล�าต้นและปลายกิ่งรูปฝ่ามือ
                                                                     มี 3-5 แฉก ยำว 2-8 ซม. ขอบจักฟันเลื่อย แผ่นใบมีต่อมกระจำยด้ำนล่ำง ก้ำนใบ
                                                                     ยำว 2-8 ซม. ดอกออกเดี่ยว ๆ ตำมซอกใบ ก้ำนดอกสั้น ริ้วประดับสีแดง มี 8-12 อัน
                                                                     รูปใบหอก ยำว 0.5-1.5 ซม. เชื่อมติดกันที่โคน ปลายมีรยางค์คล้ายหนาม กลีบเลี้ยง
                                                                     สีแดง รูปสำมเหลี่ยม ยำว 1-2 ซม. ติดทน มีขนและหนำมกระจำย ดอกสีเหลืองนวล
                                                                     โคนดอกด้านในสีแดง ดอกบำนเส้นผ่ำนศูนย์กลำง 6-7 ซม. เส้ำเกสรยำวเท่ำ ๆ
                                                                     กลีบเลี้ยง ผลแห้งแตก มี 5 ซีก เส้นผ่ำนศูนย์กลำงประมำณ 1.5 ซม. มีขนหยำบ
                                                                     เมล็ดรูปคล้ำยไต (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ ชบำ, สกุล)
                                                                       มีถิ่นก�ำเนิดในแอฟริกำตะวันตก ปลูกทั่วไปในเขตร้อน กลีบเลี้ยงตำกแห้งท�ำ
                                                                     เป็นเครื่องดื่มแก้กระหำย และควบคุมควำมดันโลหิต ทั้งต้นใช้ขับปัสสำวะ คลำย
                                                                     กล้ำมเนื้อ รักษำโรคเลือดออกตำมไรฟัน และฆ่ำเชื้อแบคทีเรีย

                                                                      เอกสารอ้างอิง
                  กระเจานา: หูใบ 3 อัน รูปเส้นด้ำย ยำวไม่เท่ำกัน ช่อดอกออกตำมซอกใบหรือตรงข้ำมใบ ผลปลำยจักเป็นพู ปลำยพู  Tang, Y., M.G. Gilbert and L.J. Dorr. (2007). Malvaceae. In Flora of China Vol.
                แยก 2 แฉก (ภำพ: กรุงเทพฯ - RP)                            12: 293.
                กระเจียน, สกุล
                Polyalthia Blume
                วงศ์ Annonaceae

                   ไม้พุ่มหรือไม้ต้น ใบเรียงเวียน ช่อดอกออกตามซอกใบ ตามข้อ หรือล�าต้น
                กลีบเลี้ยง 3 กลีบขนาดเล็ก กลีบดอก 6 กลีบ เรียง 2 วง วงนอกและวงในยำว
                เท่ำ ๆ หรือไม่เท่ำกัน เรียงจรดกัน เกสรเพศผู้จ�ำนวนมำก ปลายแกนอับเรณูตัด   กระเจี๊ยบ: ใบรูปฝ่ำมือ โคนดอกด้ำนในสีแดง ริ้วประดับมี 8-12 อัน ติดทน (ภำพ: cultivated - RP)
                คาร์เพลแยกกัน ก้ำนเกสรเพศเมียไร้ก้ำนหรือมีก้ำน ยอดเกสรเพศเมียแผ่ขยำย
                ผลกลุ่ม ผลย่อยมีก้ำน มี 1-5 เมล็ด มีสันนูนตามขวางเป็นวง   กระเจี๊ยบมอญ, สกุล
                                                                     Abelmoschus Medik.
                   สกุล Polyalthia มีมากกว่า 100 ชนิด พบในแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย และ
                   หมู่เกาะแปซิฟิก ในไทยมีมากกว่า 20 ชนิด ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “polys”   วงศ์ Malvaceae
                   มาก และ “althos” รักษา หมายถึงมีหลายชนิดที่เป็นพืชสมุนไพร  ไม้ล้มลุก ใบเรียงเวียน ขอบเรียบหรือจักเป็นพู ดอกออกเดี่ยว ๆ ตำมซอกใบ
                                                                     ริ้วประดับมี 5-15 อัน ติดทน กลีบเลี้ยงรูปใบพายแยกด้านเดียว ปลายแยกเป็น
                กระเจียน                                             แฉกขนาดเล็ก 5 แฉก ร่วงพร้อมกลีบดอก กลีบดอก 5 กลีบ มีสีเข้มตรงกลำง
                Polyalthia cerasoides (Roxb.) Benth. & Hook. f ex Bedd.  เส้ำเกสรสั้นกว่ำกลีบดอก เกสรเพศผู้จ�ำนวนมำก รังไข่มี 5 ช่อง ออวุลจ�ำนวนมำก
                  ชื่อพ้อง Uvaria cerasoides Roxb.                   ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 5 ตุ่ม ไร้ก้านเกสรเพศเมีย ผลแห้งแตกตำมยำว เมล็ด
                   ไม้ต้น สูงได้ถึง 20 ม. กิ่งแก่มีช่องอากาศ มีขนสั้นนุ่มตำมกิ่งอ่อนและแผ่นใบ  จ�ำนวนมำก ผิวเรียบ
                ด้ำนล่ำง ใบรูปขอบขนำนหรือรูปใบหอก ยำว 6-19 ซม. ก้ำนใบสั้น ช่อดอกออก  สกุล Abelmoschus อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Malvoideae คล้ายกับสกุล Hibiscus แต่
                ตามซอกใบส่วนมากมีดอกเดียว ก้ำนดอกยำว 1-2 ซม. ใบประดับคล้ำยใบ 1-2 อัน   กลีบเลี้ยงรูปใบพายแยกจรดโคนด้านเดียว มีประมาณ 15 ชนิด ส่วนมากพบใน
                ติดใต้กึ่งกลางก้านดอก ติดทน กลีบเลี้ยงรูปขอบขนำนแกมรูปไข่ ยำว 8-9 มม.   เอเชียเขตร้อน ในไทยมีพืชพื้นเมือง 2 ชนิด ไม้ต่างถิ่น 3 ชนิด ชื่อสกุลมาจาก
                ด้ำนนอกมีขนยำว ดอกสีเขียว กลีบยาวเท่า ๆ กลีบเลี้ยง แผ่นกลีบหนำ มีขนประปรำย   ภาษาอาหรับ “abul-l-mosk” หมายถึงแหล่งของน้ำาหอมกลิ่นชะมดที่ได้จากเมล็ด

                6






        59-02-089_001-112 Ency_new1-3_J-Coated.indd   6                                                                   3/1/16   5:20 PM
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31