Page 29 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 29

โคนเรียวแคบเป็นร่อง อับเรณูเรียงขนำนกัน แตกตำมยำวหรือมีรูเปิดที่ปลำย   สารานุกรมพืชในประเทศไทย  กระชิด
                    ไม่มีเดือย รังไข่มี 3 ช่อง ผลแห้งแตกเป็น 3 ซีก เมล็ดมีเยื่อหุ้มจักเป็นครุย

                       สกุล Boesenbergia มีมากกว่า 60 ชนิด พบในเอเชียเขตร้อน ในไทยมีมากกว่า
                       25 ชนิด ชื่อสกุลตั้งตาม Clara Boesenberg น้องสาวของ Otto Kuntze (1843-1907)
                       นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน

                    กระชาย
                    Boesenbergia rotunda (L.) Mansf.
                      ชื่อพ้อง Curcuma rotunda L.
                       ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 1 ม. เหง้าและรากสีน�้าตาลอมเหลือง รากยาวได้ถึง 6 ซม.
                    โคนกำบใบขยำยออก ใบรูปขอบขนำนหรือรูปใบหอก ยำวได้ถึง 50 ซม. ก้ำนใบยำว
                    7-16 ซม. ช่อดอกออกที่ยอด ยำวได้ถึง 6 ซม. มีได้ถึง 10 ดอก ใบประดับรูปขอบขนำน
                                                                          กระชายเขาพังงา: แผ่นใบด้ำนบนมีปื้นสีอ่อนตำมเส้นกลำงใบ ด้ำนล่ำงสีเงิน ดอกสีขำวอมเหลือง กลีบปำกเป็นถุง
                    ยำวประมำณ 3.5 ซม. หลอดกลีบดอกยำวประมำณ 4 ซม. โคนก้านชูอับเรณูมีต่อม   ปลำยกลีบมีแถบเส้นสีแดง (ภำพดอก: พังงำ, ภำพต้น: ระนอง; - JM)
                    2 ต่อม ดอกสีขำว รูปขอบขนำน ยำวประมำณ 2 ซม. กลีบปำกรูปใบพำย ยำวประมำณ
                    2 ซม. มีรอยย่นสีแดง ชมพู หรือม่วง ปลายกลีบเรียบหรือเว้าตื้น โคนด้านในมี  กระชิด
                    จุดแดง แผ่นเกสรเพศผู้ที่เป็นหมันรูปใบพำย ยำวประมำณ 1.5 ซม. เส้นกลีบบำงใส   Blachia siamensis Gagnep.
                    อับเรณูโค้งเล็กน้อย สันอับเรณูรูปสามเหลี่ยมพับงอกลับ  วงศ์ Euphorbiaceae
                       พบในเอเชียเขตร้อน เป็นพืชอำหำรและสมุนไพร ลักษณะล�ำต้น ใบ และสีดอก
                    มีควำมผันแปรสูง                                        ไม้พุ่ม สูงได้ถึง 5 ม. มีขนสั้นนุ่มตามก้านใบ ช่อดอก รังไข่ และผล ใบรูปสี่เหลี่ยม
                                                                        ข้าวหลามตัดแกมรูปไข่ ยำว 2-4.5 ซม. ขอบมีขนครุย เส้นกลำงใบนูนทั้งสองด้ำน
                                                                        ช่อดอกแบบช่อซี่ร่ม ยำว 1.5-2 ซม. ดอกเพศผู้เส้นผ่ำนศูนย์กลำง 4-5 มม. ก้ำนดอก
                    กระชายเขาพังงา                                      ยำว 1-1.5 ซม. กลีบเลี้ยงและกลีบดอกกลม ขนำดประมำณ 1.5 มม. เกสรเพศผู้มี
                    Boesenbergia ochroleuca (Ridl.) Schltr.             14-21 อัน ก้ำนชูอับเรณูยำวประมำณ 3 มม. ดอกเพศเมียเส้นผ่ำนศูนย์กลำง
                      ชื่อพ้อง Gastrochilus ochroleucus Ridl.           1-3.5 มม. ก้ำนดอกยำว 0.5-2.3 ซม. กลีบเลี้ยงรูปสำมเหลี่ยม ยำว 2-4 มม. ขอบมี
                       ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 60 ซม. ไม่มีเหง้า รำกยำวได้กว่ำ 10 ซม. กำบใบยำว 3-5 ซม.   ขนครุย ยอดเกสรเพศเมียยำว 5-6 มม. ผลแห้งแตก มี 3 พู เส้นผ่ำนศูนย์กลำง
                    ลิ้นกำบยำวประมำณ 7 มม. ใบรูปใบหอก ยำวได้ถึง 17 ซม. โคนกลม แผ่นใบด้านบน  0.8-1 ซม. เมล็ดรูปรี ยำวประมำณ 6 มม.
                    มีปื้นสีอ่อนตามเส้นกลางใบ ด้านล่างสีเงินหรืออมม่วง ก้ำนใบยำว 3 ซม. ช่อดอก  พบที่ไห่หนำน ในไทยพบกระจำยห่ำง ๆ ทำงภำคตะวันออกเฉียงใต้ที่ชลบุรี
                    ออกที่ยอด รูปกระสวย ยำวประมำณ 4 ซม. มี 7-8 ดอก ใบประดับสีเขียวอ่อน   และภำคตะวันตกเฉียงใต้ที่เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ขึ้นตำมเขำหินปูนหรือหินแกรนิต
                    รูปขอบขนำน ยำวประมำณ 2.8 ซม. ดอกสีขาวอมเหลือง หลอดกลีบดอกยำว  เตี้ย ๆ ควำมสูงไม่เกิน 100 เมตร
                    ประมำณ 2.5 ซม. กลีบรูปไข่หรือแกมรูปขอบขนำน ยำวประมำณ 1.2 ซม. กลีบปาก
                    เป็นถุง รูปกลม เส้นผ่ำนศูนย์กลำงประมำณ 2 ซม. มีแถบเส้นสีแดง โคนมีจุดสีแดง   สกุล Blachia Baill. อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Crotonoideae แยกมาจากสกุล Croton
                    2 จุด ด้านนอกมีขนต่อม ปลำยกลีบพับลง ย่น เส้นกลีบโปร่งแสง เกสรเพศผู้ที่เป็นหมัน  มี 12 ชนิด พบในเอเชียเขตร้อน ในไทยมี 2 ชนิด อีกชนิดคือ กระเลียงฟาน
                    รูปไข่กลับ ยำวประมำณ 9 มม. ด้ำนนอกมีขนต่อม เกสรเพศผู้ยำวประมำณ 8 มม.   B. andamanica (Kurz) Hook. f. ก้านใบ ช่อดอก รังไข่ และผลเกลี้ยง มีเขต
                    สันอับเรณูเว้ำตื้น จัก 3 พู มีขนต่อม                   การกระจายพันธุ์ุ์กว้างกว่า ชื่อสกุลตั้งตาม M. Blache เพื่อนของ Henri Ernest
                                                                           Baillon (1827-1895) นักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส
                       พืชถิ่นเดียวของไทย พบทำงภำคใต้ที่ระนอง พังงำ ขึ้นบนเขำหินปูนในป่ำดิบชื้น
                    ควำมสูงระดับต�่ำ ๆ                                     เอกสารอ้างอิง
                                                                           Li, B. and M.G. Gilbert. (2008). Euphorbiaceae (Blachia). In Flora of China Vol.
                      เอกสารอ้างอิง                                           11: 269-270.
                       Larsen, K. and S.S. Larsen. (2006). Gingers of Thailand. Queen Sirikit Botanical   Phattarahirankanok, K. and K. Chayamarit. (2005). Euphorbiaceae (Blachia). In
                          Garden Organization. Chiang Mai.                    Flora of Thailand Vol. 8(1): 126-130.
                       Sirirugsa, P. (1987). Three new species and one new combination in Boesenbergia
                          (Zingiberaceae) from Thailand. Nordic Journal of Botany 7: 421-425.
                       ________. (1992). A revision of the genus Boesenbergia Kuntze (Zingiberaceae)
                          in Thailand. Natural History Bulletin of Siam Society 40: 67-90.








                                                                          กระชิด: ลักษณะวิสัยเป็นไม้พุ่มเตี้ย ขอบใบมีขนครุย ก้ำนใบและผลมีขนสั้นนุ่ม ผลจัก 3 พู เกสรเพศเมียติดทน
                                                                        (ภำพวิสัย: กุยบุรี ประจวบคีรีขันธ์ - MP; ภำพผล: ห้วยยำง ประจวบคีรีขันธ์ - RP)









                      กระชาย: ช่อดอกออกที่ยอด กลีบปำกรูปใบพำย มีรอยย่นสีแดง ชมพู หรือม่วง ปลำยกลีบเว้ำตื้น โคนด้ำนในมีจุดแดง
                    อับเรณูโค้งเล็กน้อย สันอับเรณูรูปสำมเหลี่ยมพับงอกลับ (ภำพ: cultivated - JM)  กระเลียงฟาน: ช่อดอกแบบช่อซี่ร่ม ผลเกลี้ยง (ภำพ: ประจวบคีรีขันธ์; ภำพช่อดอกเพศผู้ - NP, ภำพผล - RP)

                                                                                                                       9






        59-02-089_001-112 Ency_new1-3_J-Coated.indd   9                                                                   3/1/16   5:21 PM
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34