Page 45 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 45

กระเบา, สกุล                                                   สารานุกรมพืชในประเทศไทย  กระปรอกเล็ก
                    Hydnocarpus Gaertn.
                    วงศ์ Achariaceae
                       ไม้ต้น ส่วนมำกแยกเพศต่ำงต้น หูใบร่วงเร็ว ใบเรียงเวียน ปลำยก้ำนใบหนำ
                    ช่อดอกแบบช่อกระจุกสั้น ๆ หรือลดรูปเป็นกระจุกตำมซอกใบ ใบประดับขนำด
                    เล็กหรือไม่มี กลีบเลี้ยงส่วนมากมี 4 กลีบ เรียงซ้อนเหลื่อม ไม่ติดทน กลีบดอก
                                                                          กระเบากลัก: ขอบใบจักซี่ฟันห่ำง ๆ เกสรเพศผู้จ�ำนวนมำก ผลรูปกลม มีขนสั้นนุ่มสีด�ำหนำแน่น (ภำพดอกเพศผู้:
                    4-15 กลีบ แยกกัน เชื่อมติดกันที่โคนหรือเป็นหลอด โคนด้านล่างกลีบมีเกล็ด   เขำสอยดำว จันทบุรี - BH; ภำพผล: ชุมพร - RP)
                    เกสรเพศผู้มี 5 อัน หรือจ�ำนวนมำก แยกกัน เป็นหมันในดอกเพศเมีย รังไข่มีช่องเดียว
                    พลาเซนตาเรียง 3-6 แถว ออวุลจ�ำนวนมำก ก้ำนเกสรเพศเมีย 3-6 อัน ยอดเกสรแบน   กระปรอกนมแมว
                    ผลสดเปลือกแข็ง บางครั้งผนังชั้นนอกเป็นเส้นใย ชั้นกลางแข็ง ชั้นในนุ่ม เมล็ด  Leptochilus pedunculatus (Hook. & Grev.) Fraser-Jenk.
                    รูปไข่แกมสามเหลี่ยม                                 วงศ์ Polypodiaceae
                       สกุล Hydnocarpus เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Flacourtiaceae มีประมาณ 40 ชนิด   ชื่อพ้อง Ceterach pedunculatum Hook. & Grev.
                       พบเฉพาะในเอเชียเขตร้อน ในไทยมี 7 ชนิด ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “hydno”   เฟินอิงอำศัย หรือขึ้นบนหิน เหง้าสีน�้าตาลเข้มทอดขนาน เส้นผ่ำนศูนย์กลำง
                       หัว และ “karpos” ผล ตามลักษณะของผลที่ดูคล้ายเป็นหัวขนาดใหญ่  2-5 มม. เกล็ดสีน�้ำตำล รูปคล้ำยสำมเหลี่ยมแคบ ยำว 2.5-4 มม. ขอบจักฟันเลื่อย
                                                                        ใบไม่สร้ำงสปอร์รูปขอบขนำนหรือรูปใบหอก ยำว 14-35 ซม. ขอบเรียบ แผ่นใบบำง
                    กระเบา                                              เส้นแขนงใบแบบร่ำงแห ก้ำนใบยำว 5-22 ซม. โคนก้านมีครีบคล้ายปีก มีเกล็ด
                    Hydnocarpus castaneus Hook. f. & Thomson            กระจำย ใบสร้ำงสปอร์รูปขอบขนำนหรือรูปใบหอก ยำว 5-24 ซม. ขอบเรียบ
                                                                        ก้านใบยาว 13-30 ซม. กลุ่มอับสปอร์รูปแถบ เรียงเป็นแถวระหว่างเส้นแขนงใบ
                      ชื่อพ้อง Hydnocarpus anthelminthicus Pierre ex Laness.  กว้างประมาณ 4 มม. ยกเว้นบริเวณเส้นกลำงใบและเส้นแขนงใบ ไม่มีเยื่อคลุม
                       ไม้ต้น สูงได้ถึง 30 ม. แยกเพศร่วมต้น มีขนรูปดาวสั้น ๆ ประปรายตามกิ่ง   กลุ่มอับสปอร์
                    แผ่นใบด้านล่าง ช่อดอก ก้านดอก และกลีบเลี้ยง ใบรูปขอบขนำน รูปใบหอก   พบที่อินเดีย จีนตอนใต้ พม่ำ ลำว เวียดนำม คำบสมุทรมลำยู สุมำตรำ ชวำ
                    หรือแกมรูปไข่ ยำว 10-30 ซม. ปลำยแหลมยำว ขอบเรียบ ก้ำนใบยำวได้ถึง 2 ซม.   ในไทยพบแทบทุกภำค ยกเว้นภำคตะวันออกเฉียงเหนือ และภำคตะวันออก ขึ้นตำม
                    ก้ำนดอกยำวได้ถึง 6 ซม. กลีบเลี้ยงรูปไข่ ยำวประมำณ 8 มม. ดอกสีครีม กลีบรูปรี   ป่ำดิบแล้ง และป่ำดิบชื้น ควำมสูงถึงประมำณ 1100 เมตร
                    ยำวได้ถึง 1.4 ซม. เกล็ดที่โคนเรียวแคบ ขอบมีขนครุย เกสรเพศผู้ 5 อัน ก้ำนชูอับเรณู
                    ยำวประมำณ 4 มม. เกลี้ยง อับเรณูยำวประมำณ 3 มม. เป็นหมันในดอกเพศเมีย   สกุล Leptochilus Kaulf. มีประมาณ 25 ชนิด พบในเอเชียเขตร้อน ในไทยมี
                    รังไข่มีขนหนำแน่น เป็นหมันในดอกเพศผู้ ออวุลมีขนยาว ผลรูปกลม เส้นผ่ำนศูนย์กลำง  7 ชนิด ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “leptos” บาง เรียว และ “chilos” กลีบปาก
                    ยำวได้ถึง 12 ซม. มีขนสั้นนุ่มสีน�้าตาลหนาแน่น ผนังผลชั้นกลำงหนำประมำณ 1 ซม.   ตามลักษณะของใบสร้างสปอร์
                    เมล็ดยำวประมำณ 2 ซม. มีขนยำว
                                                                          เอกสารอ้างอิง
                       พบที่พม่ำ ภูมิภำคอินโดจีน คำบสมุทรมลำยู บอร์เนียว และสุมำตรำ ในไทย  Lindsay, S. and D.J. Middleton. (2012 onwards). Ferns of Thailand, Laos and
                    พบกระจำยทุกภำค ขึ้นตำมป่ำดิบแล้ง ป่ำดิบเขำ และป่ำดิบชื้น ควำมสูงถึงประมำณ   Cambodia. http://rbg-web2.rbge.org.uk/thaiferns/
                    1600 เมตร สำรสกัดจำกเมล็ดใช้ทำแก้โรคผิวหนังหลำยชนิดรวมทั้งโรคเรื้อน   Tagawa, M. and K. Iwatsuki. (1989). Pteridophytes (Colysis pedunculata). In
                                                                              Flora of Thailand 3(4): 538.
                                                                           Xianchun, Z. and H.P. Nooteboom. (2013). Polypodiaceae (Leptochilus). In
                    กระเบากลัก                                                Flora of China Vol. 2-3: 833-834.
                    Hydnocarpus ilicifolius King
                       ไม้ต้น สูงได้ถึง 30 ม. แยกเพศต่างต้น ใบรูปไข่ รูปไข่กลับ หรือแกมรูปขอบขนำน
                    ยำว 9-22 ซม. ปลำยแหลมหรือแหลมยำว ขอบเรียบหรือจักซี่ฟันห่าง ๆ ก้ำนใบ
                    ยำวได้ถึง 1.5 ซม. ช่อดอกมีขนสีน�้าตาลแดงหนาแน่น ก้ำนดอกยำวได้ถึง 2 ซม.
                    กลีบเลี้ยงรูปรีกว้ำง ยำวประมำณ 9 มม. ด้ำนนอกมีขนสั้นนุ่ม ดอกสีเขียวอ่อน
                    กลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยำวได้ถึง 8 มม. ด้ำนนอกมีขนประปรำย เกล็ดที่โคน
                    เชื่อมติดกัน เกสรเพศผู้ยื่นพ้นปำกหลอดกลีบดอกเล็กน้อย ก้ำนชูอับเรณูมีขน รังไข่
                    มีขนหนำแน่น ไม่มีรังไข่ที่เป็นหมันในดอกเพศผู้ ผลรูปกลม เส้นผ่ำนศูนย์กลำง
                    ยำวได้ถึง 8 ซม. มีขนสั้นนุ่มสีด�าหนาแน่น ผนังผลชั้นกลำงหนำประมำณ 3 มม.
                    เมล็ดยำวประมำณ 2.5 ซม.                                กระปรอกนมแมว: ใบแบบทวิสัณฐำน กลุ่มอับสปอร์เรียงตัวเป็นแถวระหว่ำงเส้นแขนงใบ ยกเว้นบริเวณเส้นกลำง
                       พบที่ภูมิภำคอินโดจีน และคำบสมุทรมลำยู ในไทยพบทุกภำค ขึ้นตำมป่ำดิบแล้ง   ใบและเส้นแขนงใบ (ภำพ: แก่งกระจำน เพชรบุรี - PK)
                    และป่ำดิบชื้นที่เป็นหินปูน ควำมสูงถึงประมำณ 800 เมตร   กระปรอกเล็ก
                      เอกสารอ้างอิง                                     Drynaria rigidula (Sw.) Bedd.
                       Harwood, B. and B. Webber. (2015). Achariaceae. In Flora of Thailand Vol.   วงศ์ Polypodiaceae
                          13(1): 2-12.
                                                                          ชื่อพ้อง Polypodium rigidulum Sw.
                                                                           เฟินเกำะอิงอำศัย ล�ำต้นเป็นเหง้ำทอดเลื้อย ยำวได้กว่ำ 3 ม. มีเกล็ดสีน�้ำตำล
                                                                        หนำแน่น ขอบเกล็ดมีขนประปราย ใบประกบต้นไร้ก้ำนรูปขอบขนำนหรือคล้ำย
                                                                        รูปสำมเหลี่ยม ยำว 10-35 ซม. ขอบใบจักเป็นพูลึก ยำวได้ถึง 3 ซม. ใบสร้างสปอร์
                                                                        เป็นใบประกอบ รูปขอบขนำนหรือรูปใบหอก ยำวได้ถึง 2 ม. ก้ำนใบสีน�้ำตำลอมม่วง
                                                                        ยำว 15-40 ซม. ใบย่อยจ�านวนมาก รูปใบหอกถึงรูปแถบ ยำว 8-25 ซม. โคนเบี้ยว
                                                                        ไร้ก้ำน ขอบใบเรียบหรือจักฟันเลื่อย เส้นกลำงใบนูนทั้งสองด้ำน กลุ่มอับสปอร์มี
                      กระเบา: ใบเรียงเวียน โคนเบี้ยว ขอบเรียบ กลีบดอกสีครีม รูปรี เกสรเพศผู้ 5 อัน ผลรูปกลม มีขนสั้นนุ่มสีน�้ำตำล  แถวเดียวทั้งด้านบนและด้านล่างขอบใบ นูนขึ้นด้ำนบนแผ่นใบ เส้นผ่ำนศูนย์กลำง
                    หนำแน่น (ภำพ: เขำช่อง ตรัง; ภำพดอก - SG, ภำพผล - AS)  ประมำณ 1 มม. (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ กระแตไต่ไม้, สกุล)

                                                                                                                      25






        59-02-089_001-112 Ency_new1-3_J-Coated.indd   25                                                                  3/1/16   5:24 PM
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50