Page 50 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 50

กล้วยผา
                                    สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                                                                     กล้วยม่วง
                                                                     Musa gracilis Holttum
                                                                     วงศ์ Musaceae
                                                                       ไม้ล้มลุกแตกหน่อ สูง 0.5-2 ม. ล�าต้นเทียมเส้นผ่านศูนย์กลาง 8-10 ซม.
                                                                     มีปื้นสีม่วงทั่วไป ใบกว้ำง 25-35 ซม. ยำว 90–150 ซม. ก้ำนใบยำว 30-70 ซม.
                                                                     แผ่นใบด้านล่างมีนวล เส้นกลำงใบเป็นร่อง ช่อดอกตั้งตรง ยาวได้ถึง 1 ม. มีขน
                                                                     หนาแน่น ใบประดับรูปขอบขนำน สีม่วงอมชมพู ยำวได้ถึง 15 ซม. ดอกเพศเมีย
                                                                     เรียงเป็นกระจุก 3-8 แถว แถวละ 2-4 ดอก กลีบรวมที่เชื่อมติดกันแยกจรด
                  กล้วยบัวสีชมพู: โคนใบด้ำนหนึ่งมน ด้ำนหนึ่งเรียวแหลม ช่อดอกตั้งขึ้น ใบประดับสีชมพูอมม่วง ๆ ดอกเรียงแถวเดียว   โคนด้านหนึ่ง ปลำยจักเป็น 5 แฉก ตื้น ๆ ผลตรง ยำวได้ถึง 10 ซม. เส้นผ่ำนศูนย์กลำง
                ผลเรียงชิดกันคล้ำยนิ้วมือ (ภำพ: cultivated - RP)
                                                                     2-2.5 ซม. มี 3-4 เหลี่ยม ก้ำนผลยำว 1-2 ซม. ผลอ่อนมีขนกระจำย เมล็ดกลม
                กล้วยผา, สกุล                                        หรือรี แบน ๆ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ กล้วย, สกุล)
                Ensete Bruce ex Horan.                                 พบที่คำบสมุทรมลำยู และภำคใต้ตอนล่ำงของไทยที่ยะลำ และนรำธิวำส ขึ้น
                วงศ์ Musaceae                                        ริมล�ำธำรในป่ำดิบชื้น ควำมสูง 50-300 เมตร
                   ไม้ล้มลุก ล�าต้นเดี่ยวโคนกว้าง กำบโอบกันแน่นเป็นล�ำต้นเทียม ใบรูปขอบขนำน   เอกสารอ้างอิง
                โคนเรียวแคบเป็นก้ำนใบ ช่อดอกคล้ายช่อกุหลาบซ้อน ออกที่ปลายยอดห้อยลง   Cheesman, E.E. (1950). Classification of the Bananas. Kew Bulletin 5: 154.
                ใบประดับเรียงซ้อนเหลื่อม ติดทน ดอกเรียง 2 แถว ในแต่ละกำบ ดอกเพศเมีย
                หรือดอกสมบูรณ์เพศออกช่วงโคน ดอกเพศผู้อยู่ช่วงปลำย กลีบรวมที่เชื่อมติดกัน
                เป็นหลอดรูปแถบ ปลำยส่วนมำกแยก 3 แฉก ไม่มีจักระหว่างกลีบ กลีบรวมที่
                แยกกันติดบนกลีบรวมตรงข้ำมกัน กว้ำงและสั้นกว่ำกลีบรวมที่เชื่อมติดกัน ปลายแยก
                3 แฉก ผลค่อนข้ำงใหญ่ เมล็ดจ�ำนวนมำก

                   สกุล Ensete ปัจจุบันได้รวมเอาสกุล Musella ที่มีชนิดเดียว ทำาให้สกุลกล้วยผา
                   มี 10-11 ชนิด ส่วนมากพบในแอฟริกา ในไทยมี 2 ชนิด และเป็นไม้ประดับ 1 ชนิด
                   คือกล้วยคุนหมิง E. lasiocarpum (Franch.) Cheesman ชื่อสกุลเป็นภาษา
                   เอธิโอเปียที่ใช้เรียกพืชในสกุลนี้

                กล้วยผา
                Ensete superbum (Roxb.) Cheesman
                  ชื่อพ้อง Musa superba Roxb.                         กล้วยม่วง: ถิ่นที่อยู่ริมล�ำธำรในป่ำดิบชื้น ช่อดอกตั้งขึ้นยำวได้ถึง 1 เมตร ใบประดับสีม่วงอมชมพู ดอกย่อยเรียง
                                                                     เป็นแถว (ภำพซ้ำย: แว้ง นรำธิวำส - MP; ภำพขวำ: cultivated - RP)
                   ไม้ล้มลุก ล�ำต้นเดี่ยว สูงได้ถึง 4 ม. ล�าต้นเทียมโคนขยายใหญ่คล้ายเป็นหัว
                กาบมีนวล ใบกว้ำง 60-90 ซม. ยำว 1-3 ม. ปลำยแหลม ก้ำนใบยำวได้ถึง 50 ซม.   กล้วยฤาษี
                เป็นร่องกว้ำง ก้ำนและเส้นกลำงใบบำงครั้งมีสีแดง ดอกตั้งขึ้น ปลำยโค้งลง ใบประดับ  Diospyros glandulosa Lace
                สีน�้าตาลอมแดงหรือม่วง รูปไข่กลับกว้ำงเกือบกลม แต่ละใบประดับมี 20-30 ดอก   วงศ์ Ebenaceae
                กลีบรวมที่เชื่อมติดกันสีครีม ยำวประมำณ 2.5 ซม. กลีบที่แยกกันสั้นกว่ำกลีบที่  ไม้ต้น สูงได้ถึง 15 ม. มีขนสั้นนุ่มตำมกิ่งอ่อน ก้ำนใบ ช่อดอก กลีบเลี้ยง และ
                เชื่อมติดกันประมำณ 5 เท่ำ บำงใส ผลรูปทรงกระบอก ยำว 2-4 ซม. เป็นเหลี่ยม   ก้ำนดอก ใบรูปรีหรือรูปขอบขนำน ยำว 8-14 ซม. แผ่นใบด้ำนล่ำงมีขนสำก
                เมล็ดสีด�ำ เรียบ เส้นผ่ำนศูนย์กลำง 6-8 มม.           เส้นแขนงใบข้างละ 4-7 เส้น ก้ำนใบยำวประมำณ 1 ซม. ช่อดอกเพศผู้เป็นช่อ

                   พบที่อินเดีย และพม่ำ ในไทยพบทำงภำคเหนือ และภำคตะวันออกเฉียงเหนือ  กระจุกสั้น ๆ ก้ำนดอกสั้น กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ แยกจรดโคน ยำว 4-6 มม. มีขนครุย
                ขึ้นตำมป่ำเบญจพรรณ โดยเฉพำะตำมหน้ำผำเขำหินปูนเตี้ย ๆ ท�ำให้มีชื่อสำมัญ  ดอกรูปคนโท ยาว 6-8 มม. มี 4 กลีบ โคนเชื่อมติดกัน เส้นกลางกลีบมีขน
                คือ rock banana หรือ cliff banana เมล็ดบดใช้รักษำโรคนิ่ว  เกสรเพศผู้ 14-30 อัน เส้นกลางอับเรณูมีขนคล้ายไหม เป็นหมันในดอกเพศเมีย
                                                                     ดอกเพศเมียก้ำนดอกยำว 2-5 มม. รังไข่มี 8 ช่อง มีขนสั้นนุ่ม ผลรูปกลม ๆ
                  เอกสารอ้างอิง                                      เส้นผ่ำนศูนย์กลำง 2.5-4 ซม. สุกสีแดง มีขนคล้ำยไหม กลีบเลี้ยงแฉกลึกจรดโคน
                   Wu, D. and W.J. Kress. (2000). Musaceae. In Flora of China Vol. 24: 314.  ขอบเป็นคลื่น มีขนสั้นนุ่มทั้งสองด้าน ไม่พับงอกลับ เอนโดสเปิร์มเรียบ (ดูข้อมูล
                                                                     เพิ่มเติมที่ มะเกลือ, สกุล)
                                                                       พบที่อินเดีย พม่ำ และภูมิภำคอินโดจีน ในไทยพบกระจำยทั่วไปทำงภำคเหนือ
                                                                     ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ และภำคตะวันออก ขึ้นตำมชำยป่ำดิบเขำ ควำมสูง
                                                                     700-1700 เมตร นิยมใช้เป็นต้นตอในกำรทำบกิ่งมะพลับ D. kaki L. f.

                                                                      เอกสารอ้างอิง
                                                                       Phengklai, C. (1981). Ebenaceae. In Flora of Thailand Vol. 2(4): 339.









                  กล้วยผา: กล้วยล�ำต้นเดี่ยว ขึ้นตำมหน้ำผำ บำงครั้งก้ำนและเส้นกลำงใบมีสีแดง ใบประดับสีม่วงหรือน�้ำตำลอมแดง   กล้วยฤๅษี: ดอกเพศผู้ออกเป็นกระจุก มีขนสั้นนุ่ม ผลมีขนคล้ำยไหม กลีบเลี้ยงแฉกลึกจรดโคน ขอบเป็นคลื่น
                ดอกเรียง 2 แถว (ภำพซ้ำย: อุ้มผำง ตำก - PK; ภำพขวำ: เชียงใหม่ - RP)
                                                                     (ภำพดอก: ชัยภูมิ - MT; ภำพผล: เชียงใหม่ - RP)
                30






        59-02-089_001-112 Ency_new1-3_J-Coated.indd   30                                                                  3/1/16   5:25 PM
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55