Page 52 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 52
กลีบเทียน
สารานุกรมพืชในประเทศไทย
5 มม. กลีบเลี้ยง 3 กลีบ รูปสำมเหลี่ยมกว้ำง ยำว 2-3 มม. กลีบดอกวงนอกรูปไข่ ก่วม, สกุล
ยำว 1.5-2 ซม. วงในรูปไข่กลับ โคนเรียวเป็นก้ำนกลีบ สั้นกว่ำกลีบวงนอกเล็กน้อย Acer L.
ปลำยจรดกันคล้ำยกระเช้ำ ขอบและเส้นกลางกลีบเป็นสันนูน มีลายเส้นสีม่วงแดง วงศ์ Sapindaceae
เกสรเพศผู้ปลำยมีรยำงค์สั้น ๆ ก้ำนช่อผลยำว 1-1.5 ซม. ผลย่อยรูปทรงกระบอก
ยำว 1-3 ซม. คอดตำมเมล็ด ก้ำนยำวได้ถึง 1 ซม. ผลอ่อนสีขาวนวล สุกสีแดงอมส้ม ไม้ต้น ไม่มีหูใบ มีเกล็ดหุ้มตำ (winter buds) ใบเดี่ยว เรียบ จักเป็นพู หรือเป็น
(ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ มหำพรหม, สกุล) ใบประกอบรูปฝ่ำมือ มี 3-5 ใบย่อย เรียงตรงข้าม ช่อดอกมีหลำยแบบ ดอกขนำดเล็ก
พบที่พม่ำ คำบสมุทรมลำยู และภำคตะวันตกเฉียงใต้ของไทยที่เพชรบุรี และ มีทั้งแบบดอกเพศผู้ร่วมต้น หรือแยกต้นกับดอกสมบูรณ์เพศ กลีบเลี้ยงและกลีบดอก
ประจวบคีรีขันธ์ ขึ้นตำมป่ำดิบแล้ง ควำมสูงถึงประมำณ 700 เมตร ส่วนมำกมีจ�ำนวนอย่ำงละ 5 กลีบ เกสรเพศผู้ส่วนมากมี 8 อัน มี 2 คาร์เพล
เชื่อมติดกัน แต่ละคำร์เพลมีออวุล 1-2 เม็ด ก้ำนเกสรเพศเมียแยก 2 แฉก ผลแบบ
เอกสารอ้างอิง ปีกเดียว ส่วนมากติดเป็นคู่ มีเมล็ดเดียว
ปิยะ เฉลิมกลิ่น. (2544). พรรณไม้วงศ์กระดังงา. สำานักพิมพ์บ้านและสวน กรุงเทพฯ.
สกุล Acer เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Aceraceae ปัจจุบันอยู่วงศ์ย่อย Hippocastanoideae
ร่วมกับสกุลมะเนียงน้ำา Aesculus มี 126 ชนิด พบทั้งในเขตร้อนและเขตอบอุ่น
ในจีนมีพืชถิ่นเดียวถึง 66 ชนิด ในไทยมี 6 ชนิด ชื่อสกุลเป็นภาษาละตินหมายถึง
ต้นเมเปิล ซึ่งมาจากภาษากรีกโบราณ Akkadian “arku” หมายถึงมีหางยาว ตาม
ลักษณะของปลายใบหลายชนิด
ก่วม
Acer oblongum Wall. ex DC.
ไม้ต้น สูงได้ถึงประมำณ 20 ม. ใบรูปรีถึงรูปใบหอก ยำว 5-17 ซม. โคนกลมหรือ
รูปลิ่ม แผ่นใบด้านล่างมีนวล เส้นโคนใบข้ำงละ 1 เส้น เส้นแขนงใบข้ำงละ 6-7 เส้น
เส้นโคนใบโค้งไม่ถึงกึ่งกลางแผ่นใบ ก้ำนใบยำว 2-5 ซม. ช่อดอกแบบช่อเชิงหลั่น
ออกตำมซอกใบใกล้ปลำยกิ่ง ยำวไม่เกิน 10 ซม. มีขนสั้นนุ่ม ก้ำนดอกยำว 1-2 ซม.
กลีบเลี้ยงรูปขอบขนำน ดอกสีเหลืองอมเขียว กลีบรูปไข่กลับ จานฐานดอกจักเป็นพู
ตื้น ๆ อยู่ด้านนอกวงเกสรเพศผู้ รังไข่มีขนสั้นนุ่ม ผลรูปรี นูนชัดเจน ยำวประมำณ
กลาย: กลีบดอก 3 กลีบวงในเรียงจรดกันคล้ำยกระเช้ำ โคนเรียวเป็นก้ำนกลีบ ผลย่อยรูปทรงกระบอก สุกสีแดงอมส้ม
(ภำพ: แก่งกระจำน เพชรบุรี - PK) 7 มม. ผนังด้านในมีขนยาวหนาแน่น ปีกยำว 1.5-2.5 ซม. กำงออกกว้ำง
พบที่อินเดีย ปำกีสถำน ภูฏำน เนปำล จีนตอนใต้ พม่ำ ลำว และเวียดนำม ใน
กลีบเทียน ไทยพบกระจำยห่ำง ๆ ยกเว้นภำคตะวันออกเฉียงใต้ และภำคใต้ ขึ้นตำมป่ำดิบแล้ง
Ranunculus siamensis Tamura และป่ำดิบเขำ ควำมสูงถึงประมำณ 1600 เมตร
วงศ์ Ranunculaceae
ไม้ล้มลุก บำงครั้งทอดเลื้อย สูง 30-80 ซม. กิ่งมีขนแข็งสีขาว ใบเรียงเวียน ก่วมขาว
ใบที่โคนต้นเป็นใบเดี่ยวหรือมี 3 ใบย่อย ก้ำนใบยำว 6-20 ซม. โคนก้านคล้ายกาบ Acer laurinum Hassk.
ใบย่อยรูปไข่กลับ ยำว 3.5-7 ซม. ใบตอนปลายกิ่งแฉกลึก 2-4 แฉก ขอบจักซี่ฟัน ชื่อพ้อง Acer garrettii Craib
ไม่เป็นระเบียบ ใบที่ล�าต้นมี 2-4 ใบ ขนาดเล็กกว่าใบที่โคนต้น ไร้ก้าน ช่อดอกแบบ ไม้ต้น สูงได้ถึง 35 ม. ใบรูปรีถึงรูปใบหอก ยำว 9-15 ซม. โคนรูปลิ่มกว้ำงหรือ
ช่อเชิงหลั่น มี 3-7 ดอก ใบประดับรูปแถบหรือมี 3 แฉก ก้ำนดอกยำว 2-10 ซม. กลม แผ่นใบด้านล่างมีนวลและมีขนสั้น เส้นโคนใบข้ำงละ 1 เส้น โค้งเลยกึ่งกลำง
มีขนแข็ง ดอกเส้นผ่ำนศูนย์กลำง 0.7-1.5 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปไข่ ยำว 4-5 มม. แผ่นใบ เส้นแขนงใบข้ำงละ 5-6 เส้น ก้ำนใบยำวได้ถึง 10 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจะ
ดอกสีเหลือง มี 5 กลีบ รูปรีหรือรูปไข่กลับ ยำว 7-8 มม. เกสรเพศผู้จ�ำนวนมำก แยกแขนงสั้น ๆ ออกตำมซอกใบ หรือยำวได้ถึง 10 ซม. มีขนสั้นนุ่ม ก้ำนดอก
ยำวประมำณ 3 มม. คำร์เพลจ�ำนวนมำก แต่ละคำร์เพลมีช่องเดียว ผลย่อยแบบ ยำว 0.5-1.5 ซม. ขยำยในผลเล็กน้อย กลีบเลี้ยงรูปไข่แคบ ๆ ยำว 2.5-3 มม. ดอก
ผลแห้งเมล็ดล่อน ติดเป็นช่อกลมเป็นกระจุกแน่น เส้นผ่ำนศูนย์กลำง 1-1.2 ซม. สีเหลืองอ่อน ๆ กลีบยำวเท่ำ ๆ กลีบเลี้ยง เกสรเพศผู้ 4-12 อัน ติดบนจำนฐำนดอก
แบน มีขอบและจะงอย ก้ำนชูอับเรณูยำวประมำณ 5 มม. ลดรูปในดอกเพศเมีย ผลรูปรีเป็นเหลี่ยมมน
พบที่เนปำล อินเดีย พม่ำ เวียดนำมตอนบน ในไทยพบทำงภำคเหนือที่เชียงใหม่ แบน ๆ ยำวประมำณ 1.5 ซม. ปีกยำว 4-7 ซม.
ขึ้นตำมที่ชื้นแฉะในป่ำเต็งรังหรือป่ำสน ควำมสูง 850-1500 เมตร พบที่อินเดีย เนปำล จีนตอนใต้ พม่ำ ภูมิภำคอินโดจีนและมำเลเซีย ฟิลิปปินส์
ในไทยพบทำงภำคเหนือที่เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่ำน ภำคตะวันออกเฉียงเหนือที่
สกุล Ranunculus L. มีประมาณ 650 ชนิด ส่วนมากพบในเขตอบอุ่นทางซีกโลกเหนือ เลย และภำคตะวันตกเฉียงใต้ที่กำญจนบุรี ขึ้นตำมป่ำดิบแล้งและป่ำดิบเขำ ควำมสูง
ในไทยมี 3 ชนิด ชื่อสกุลเป็นภาษาละตินหมายถึงกบขนาดเล็ก หมายถึงถิ่นที่อยู่ 500-1500 เมตร
ตามที่ชื้นแฉะคล้ายกบ
เอกสารอ้างอิง ก่วมเชียงดาว
Tamura, M. (2011). Ranunculaceae. In Flora of Thailand Vol. 11(1): 65-68. Acer chiangdaoense Santisuk
ไม้ต้น ส่วนมำกสูง 5-15 ม. ล�ำต้นมักแคระแกร็น มีขนละเอียดตำมกิ่งอ่อน
ใบอ่อน และช่อดอก ใบรูปไข่หรือรูปไข่กว้ำง ยำว 4-11 ซม. ขอบเรียบ แผ่นใบด้านล่าง
มีนวล เส้นโคนใบข้ำงละ 1-2 เส้น เส้นแขนงใบข้ำงละ 3-4 เส้น คู่ล่างโค้งถึงประมาณ
กึ่งกลางใบ ช่อดอกคล้ายช่อเชิงหลั่นแยกแขนงสั้น ๆ ออกที่ปลำยกิ่ง ยำว 3.5-8 ซม.
มีขนสั้นนุ่ม ก้ำนดอกยำว 0.5-1 ซม. กลีบเลี้ยงยำวประมำณ 2.5 มม. ดอกสีขำว
กลีบดอกยำวกว่ำกลีบเลี้ยงเล็กน้อย ช่อผลมักตั้งขึ้น ผลรูปรีเป็นเหลี่ยมมน ยำว
0.5-1 ซม. ปีกยำว 1.4-1.8 ซม.
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพำะทำงภำคเหนือที่ดอยเชียงดำว จังหวัดเชียงใหม่
กลีบเทียน: ใบแฉกลึก 2-4 แฉก ดอกสีเหลือง ผลย่อยเป็นช่อกระจุกแน่น (ภำพ: แม่สะนำม เชียงใหม่ - PK) และดอยตุง จังหวัดเชียงรำย ขึ้นตำมเขำหินปูน ควำมสูง 1300-2200 เมตร
32
59-02-089_001-112 Ency_new1-3_J-Coated.indd 32 3/1/16 5:25 PM