Page 58 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 58

กอมขม
                                    สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                                                                       สกุล Trigonobalanus Forman เคยถูกยุบอยู่ภายใต้สกุล Formanodendron มี
                                                                       3 ชนิด พบในเอเชียและอเมริกาเขตร้อน ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “trigonos”
                                                                       สามเหลี่ยม และ “balanos” ผลมีกาบ ตามลักษณะรูปสามเหลี่ยมของผล
                                                                      เอกสารอ้างอิง
                                                                       Huang, C., Y. Zhang and B. Batholomew. (1999). Fagaceae (Formanodendron).
                                                                          In Flora of China Vol. 4: 369.
                                                                       Phengklai, C. (2008). Fagaceae. In Flora of Thailand Vol. 9(3): 409-410.



                  ก่อภูวัว: ขอบใบจัก ผลกลมแป้น กำบเชื่อมติดกันที่โคน หุ้มผลเกินกึ่งหนึ่ง เกล็ดรูปสำมเหลี่ยม ขอบและกลำงเกล็ดมี
                สันคม (ภำพ: ภูวัว บึงกำฬ - SSi)
                กอมขม
                Picrasma javanica Blume
                วงศ์ Simaroubaceae
                   ไม้ต้น สูงได้ถึง 20 ม. แยกแพศร่วมต้นหรือมีดอกสมบูรณ์เพศด้วย หูใบรูปรี
                ยำว 0.7-2.5 ซม. ร่วงเร็ว ใบประกอบเรียงเวียน มีใบย่อย 2-4 คู่ ก้ำนใบประกอบ
                ยำว 2-6 ซม. ใบย่อยรูปรีหรือรูปขอบขนำน ยำว 4-20 ซม. ก้ำนใบย่อยสั้น ช่อดอก
                แบบช่อกระจุกแยกแขนง ยำวได้ถึง 20 ซม. กลีบเลี้ยง 4 กลีบ รูปสำมเหลี่ยม
                ขนำดเล็ก กลีบดอก 4 กลีบ รูปรีหรือรูปไข่ ยำว 2-5 มม. ในดอกเพศเมียยำว 3-7 มม.
                ติดทน ขยำยในผลยำว 1-2 ซม. เกสรเพศผู้ 4 อัน ยำว 0.5-5 มม. ก้ำนชูอับเรณูมีขน  ก่อสามเหลี่ยม: ขอบใบเรียบ ช่อผลตั้งขึ้น แต่ละกำบมีหลำยผล ผลรูปไข่กลับ มีครีบคล้ำยปีก 3 อัน มีขนสีน�้ำตำล
                ที่โคน จานฐานดอกขยายในผล มี 4 คำร์เพล แต่ละคำร์เพลมีออวุลเม็ดเดียว   (ภำพ: ขุนแจ เชียงใหม่ - TW)
                ก้ำนเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรรูปเส้นด้ำย ยำวประมำณ 2 มม. มี 1-4 ผลย่อยติดบน  ก่อหมวก
                จานฐานดอก เส้นผ่ำนศูนย์กลำงประมำณ 1 ซม. สีขาว เขียว หรือฟ้าอมน�้าเงิน
                                                                     Quercus oidocarpa Korth.
                   พบที่อินเดีย พม่ำ ภูมิภำคอินโดจีนและมำเลเซีย ขึ้นริมล�ำธำรในป่ำดิบแล้ง
                และป่ำดิบชื้น ควำมสูง 500-700 เมตร เปลือกบำงมีรสขม มีสรรพคุณช่วยลดไข้  วงศ์ Fagaceae
                                                                       ไม้ต้น สูงได้ถึง 30 ม. หูใบรูปแถบ ยาวได้ถึง 1 ซม. ขอบมีขนครุย ใบรูปขอบขนำน
                   สกุล Picrasma Blume มีประมาณ 9 ชนิด ในไทยพบเพียงชนิดเดียว ชื่อสกุล  รูปใบหอก หรือแกมรูปไข่กลับ ยำว 8-21 ซม. ก้ำนใบยำว 1-2.5 ซม. ช่อดอกเพศผู้
                   มาจากภาษากรีก “pikrasmos” ขม หมายถึงพืชมีรสขม (เปลือก)  ออกเป็นกระจุก ห้อยลง ยำว 2-10 ซม. ช่อดอกเพศเมียสั้น ตั้งขึ้น ออกที่ปลำยกิ่ง
                                                                     หรือซอกใบ ยำว 1-3 ซม. มี 3-7 ดอก ผลรูปไข่ กว้ำง 2.5-3.5 ซม. สูง 2.5-5 ซม.
                  เอกสารอ้างอิง
                   Nooteboom, H.P. (1981). Simaroubaceae. In Flora of Thailand Vol. 2(4): 446-447.  รวมกำบ ผิวมีนวล ส่วนมากมี 1-2 ผล ติดบนช่อคล้ำยมีก้ำนหนำสั้น ๆ กาบรูปถ้วย
                                                                     หรือจาน หุ้มผลไม่เกินกึ่งหนึ่ง เกล็ดเรียงซ้อนเหลื่อม 6-12 วง (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่
                                                                     ก่อแดง, สกุล)
                                                                       พบที่พม่ำ เวียดนำม คำบสมุทรมลำยู สุมำตรำ บอร์เนียว ในไทยส่วนมำกพบ
                                                                     ทำงภำคใต้ พบประปรำยทำงภำคเหนือ และภำคตะวันออกเฉียงเหนือที่เลย ขึ้นตำม
                                                                     ป่ำดิบเขำ และป่ำดิบชื้น ควำมสูง 800-1700 เมตร
                                                                      เอกสารอ้างอิง
                                                                       Phengklai, C. (2008). Fagaceae. In Flora of Thailand Vol. 9(3): 389-391.



                  กอมขม: ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนง กลีบเลี้ยงและกลีบดอกจ�ำนวนอย่ำงละ 4 กลีบ ขยำยในผล ผลย่อยติด
                บนจำนฐำนดอก (ภำพดอก: ป่ำละอู ประจวบคีรีขันธ์ - DM; ภำพผล: แก่งกระจำน เพชรบุรี - PK)
                ก่อสามเหลี่ยม
                Trigonobalanus doichangensis (A. Camus) Forman
                วงศ์ Fagaceae
                  ชื่อพ้อง Quercus doichangensis A. Camus, Formanodendron doichangensis
                    (A. Camus) Nixon & Crepet
                                                                      ก่อหมวก: ช่อดอกเพศเมียออกสั้น ๆ ผลผิวมีนวล ส่วนมำกมี 1-2 ผล กำบหุ้มผลไม่เกินกึ่งหนึ่ง เกล็ดเรียงซ้อนเหลื่อม
                   ไม้ต้น สูง 10-30 ม. แยกเพศร่วมต้น มีขนรูปดาวสั้นนุ่มสีน�้าตาลแดงตามกิ่ง  6-12 วง (ภำพ: ดอยภูคำ น่ำน - SSi)
                และใบอ่อน กลีบรวม และผล ใบเรียงเวียน รูปรีหรือรูปไข่ ยำว 7-18 ซม. ขอบเรียบ
                เส้นแขนงใบข้ำงละ 10-15 เส้น ก้ำนใบยำว 0.5-1.2 ซม. ช่อดอกเพศผู้ยำว 3-14 ซม.   ก่อหลับเนื้อริ้ว
                ดอกออกเป็นกระจุก 1-7 ดอก ใบประดับ 1 อัน ใบประดับย่อย 2 อัน กลีบรวม   Lithocarpus cantleyanus (King ex Hook. f.) Rehder
                6 กลีบ เกสรเพศผู้ 6 อัน ช่อดอกเพศเมียยำว 8-10 ซม. ตั้งขึ้น ดอกออกเป็นกระจุก   วงศ์ Fagaceae
                3 ดอก หรือหลำยดอก ใบประดับ 3-5 อัน รังไข่ 3 ช่อง ก้ำนเกสรเพศเมีย 3 อัน   ชื่อพ้อง Quercus cantleyana King ex Hook. f.
                ผลรูปไข่กลับ ยำว 0.5-1 ซม. มี 3 พูเป็นครีบคล้ายปีก มี 3-7 ผลในแต่ละกาบ
                กาบมีเกล็ดหนาแน่นเรียงตามขวาง แตกเป็น 3-5 ส่วน ด้านในมีขน  ไม้ต้น สูงได้ถึง 30 ม. ใบรูปรีถึงรูปใบหอก ยำว 10-20 ซม. โคนเบี้ยว เส้นแขนงใบ
                                                                     ข้ำงละ 12-15 เส้น ก้ำนใบยำว 1-1.7 ซม. ช่อดอกเพศผู้บำงครั้งแตกแขนง ยำวได้ถึง
                   พบที่จีนตอนใต้ และภำคเหนือของไทยที่เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ และ  15 ซม. ช่อแขนงยำว 3-5 ซม. ช่อดอกเพศเมียยำว 8-15 ซม. ผลรูปไข่คล้ายรูป
                อุตรดิตถ์ ขึ้นตำมที่ลำดชันและสันเขำในป่ำดิบเขำ ควำมสูง 900-1700 เมตร  ลูกข่าง กว้ำง 2.2-3 ซม. สูง 1.5-2.5 ซม. รวมกำบ ผิวมีนวล ปลำยมีติ่งแหลม


                38






        59-02-089_001-112 Ency_new1-3_J-Coated.indd   38                                                                  3/1/16   5:27 PM
   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63