Page 60 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 60

กะฉอดแรด


                กะฉอดแรด, สกุล      สารานุกรมพืชในประเทศไทย           เอกสารอ้างอิง
                Tectaria Cav.                                          Lindsay, S. and D.J. Middleton. (2012 onwards). Ferns of Thailand, Laos and
                                                                          Cambodia. http://rbg-web2.rbge.org.uk/thaiferns/
                วงศ์ Tectariaceae                                      Tagawa, M. and K. Iwatsuki. (1988). Dryopteridaceae. In Flora of Thailand Vol.
                                                                          3(3): 364-384.
                   เฟินขึ้นบนพื้นดิน เหง้ำสั้น ตั้งขึ้นหรือทอดนอน มีเกล็ดบำง ๆ ใบมีแบบเดียว  Xing, F., Y. Yuehong and M.J.M. Christenhusz. (2013). Tectariaceae (Tectaria).
                หรือสองแบบ ใบส่วนมำกแบบใบประกอบจักแบบขนนก ขอบเรียบ แกนใบมีขน  In Flora of China Vol. 2-3: 733.
                หลำยเซลล์ เส้นใบย่อยแบบร่ำงแห อับสปอร์ส่วนมากรูปกลม ติดบนหรือระหว่าง
                เส้นใบ มีเยื่อคลุมหรือไม่มี สปอร์รูปรีหรือรูปไข่ ผิวมีตุ่มหรือหนาม
                   สกุล Tectaria มีประมาณ 230 ชนิด พบทั่วไปในเขตร้อน ในไทยมีประมาณ 30
                   ชนิด ชื่อสกุลมาจากภาษาละติน “tectum” คลุม และคำาคุณศัพท์ “aria” ตาม
                   ลักษณะการติดของอับสปอร์

                กะฉอดแรด                                              กะฉอดแรด: T. griffithii ใบประกอบย่อย 1-2 ใบ ที่โคนขนำดใหญ่ แฉกลึกจรดโคน กลุ่มอับสปอร์ติดตำมปลำย
                Tectaria griffithii (Baker) C. Chr.                  เส้นแขนงใบย่อย เรียงข้ำงละ 1-2 แถว (ภำพ: คลองแก้ว ตรำด - TP)
                  ชื่อพ้อง Nephrodium griffithii Baker
                   เฟินขึ้นบนดิน เหง้ำตั้งขึ้น เกล็ดสีน�้ำตำลเข้ม รูปแถบ ยำวได้ถึง 2 ซม. ใบรูป
                สำมเหลี่ยมแกมรูปขอบขนำน กว้ำงได้ถึง 40 ซม. ยำวได้ถึง 70 ซม. ก้ำนใบเปรำะ
                ยำวเท่ำ ๆ แผ่นใบ มีเกล็ดหนาแน่นช่วงโคน ใบช่วงโคนรูปสำมเหลี่ยม เบี้ยว ยำว
                ได้ถึง 30 ซม. มีก้ำนยำว ปลำยยำวคล้ำยหำง ใบประกอบย่อยมี 1-2 ใบ ใบที่โคน
                ขนาดใหญ่ แฉกลึกจรดโคน รูปขอบขนำน ยำวได้ถึง 20 ซม. ปลำยเรียวแหลม
                บำงครั้งมีก้ำนสั้น ๆ ใบปลำย โคนสอบเรียวเป็นครีบ ขอบจักเป็นพูลึก แกนใบ  กะฉอดแรด: T. rockii ใบประกอบย่อยช่วงโคนแยกแขนง 2-3 ชั้น กลุ่มอับสปอร์ติดที่ปลำยเส้นใบ กระจำยห่ำง
                และเส้นกลำงใบด้ำนบนมีขนหยำบ เส้นใบเป็นช่องร่างแหชัดเจน กลุ่มอับสปอร์   ข้ำงละแถวของเส้นกลำงใบย่อย (ภำพ: เขำสอยดำว จันทบุรี - TP)
                ติดตามปลายเส้นแขนงใบย่อย เรียงข้างละ 1-2 แถว มีเยื่อคลุม เส้นผ่ำนศูนย์กลำง
                ประมำณ 2 มม.
                   พบที่อินเดีย จีนตอนใต้ พม่ำ ภูมิภำคอินโดจีนและมำเลเซีย ในไทยพบทุกภำค
                ขึ้นตำมป่ำดิบแล้ง และป่ำดิบชื้น ควำมสูงถึงประมำณ 600 เมตร

                กะฉอดแรด
                Tectaria rockii C. Chr.
                   เฟินขึ้นบนดิน เหง้ำทอดนอน เกล็ดแข็ง สีน�้ำตำลเข้มหรือสีด�ำ รูปแถบ ยำวประมำณ
                1.5 มม. ใบประกอบรูปสำมเหลี่ยมกว้ำง กว้ำงยำวประมำณ 50 ซม. ก้ำนใบยำวได้ถึง
                80 ซม. มีขนประปรำย โคนมีเกล็ด ใบประกอบย่อย 3-5 คู่ แกนกลางใบ แผ่นใบ  กะฉอดแรดใบขน: มีใบสองแบบ ใบไม่สร้ำงสปอร์จักเป็นพูแบบขนนกหรือมีใบประกอบย่อย 3 ใบ ใบสร้ำงสปอร์
                ด้านล่าง และเส้นใบมีขนละเอียด ใบช่วงโคนแยกแขนง 2-3 ชั้น รูปสำมเหลี่ยม  ใบตั้งตรง มีใบย่อย 3 ใบ รูปแถบ กลุ่มอับสปอร์เรียงทั่วทั้งแผ่นใบด้ำนล่ำง ยกเว้นขอบใบ (ภำพ: ภูสวนทรำย เลย - PK)
                เบี้ยว ยำวได้ถึง 50 ซม. ใบช่วงปลำยเรียวแหลม โคนรูปลิ่ม ใบย่อยที่โคนขนาดใหญ่   กะตังใบ, สกุล
                ยำวได้ถึง 20 ซม. ก้ำนสั้นหรือไร้ก้ำน จักมน กลุ่มอับสปอร์ติดที่ปลายเส้นใบ   Leea D. Royen ex L.
                กระจายห่าง เรียงข้างละแถวของเส้นกลางใบย่อย มีเยื่อคลุม กลม เส้นผ่ำนศูนย์กลำง
                ประมำณ 1.5 มม. มีขนละเอียดหรือเกือบเกลี้ยง           วงศ์ Vitaceae
                   พบที่พม่ำและภูมิภำคอินโดจีน ในไทยพบแทบทุกภำคยกเว้นภำคใต้ ขึ้นตำม  ไม้ล้มลุก ไม้พุ่ม รอเลื้อย หรือไม้ต้นขนำดเล็ก หูใบส่วนมากมีครีบคล้ายปีก
                ป่ำดิบแล้ง และป่ำดิบเขำ ควำมสูง 400-1200 เมตร        ร่วงเร็ว ใบเดี่ยวหรือใบประกอบ เรียงสลับระนำบเดียว แกนกลางมักมีครีบเป็นปีก
                                                                     แคบ ๆ เส้นใบแบบขั้นบันได ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนง ออกที่ปลำยกิ่ง
                กะฉอดแรดใบขน                                         หรือตรงข้ำมใบ ใบประดับและใบประดับย่อยขนำดเล็ก ส่วนมำกร่วงเร็ว กลีบเลี้ยง
                Tectaria zeilanica (Houtt.) Sledge                   และกลีบดอกจ�ำนวนอย่ำงละ 5 กลีบ กลีบเลี้ยงหนา ปลายจักตื้น ๆ ติดทน กลีบดอก
                                                                     พับงอกลับ แผ่นเกสรเพศผู้ที่เป็นหมันเชื่อมติดกันเป็นหลอด สีขาว เกสรเพศผู้
                  ชื่อพ้อง Ophioglossum zeilanicum Houtt., Quercifilix zeilanica (Houtt.) Copel.  5 อัน ก้านชูอับเรณูเป็นแผ่นบาง แกนอับเรณูหนา ไม่มีจานฐานดอก รังไข่มี
                   เฟินขึ้นบนดิน ทอดนอนสั้น ๆ เกล็ดรูปสำมเหลี่ยม ยำวประมำณ 5 มม. ขอบจัก   4-8 ช่อง แต่ละช่องมีออวุลเม็ดดียว เกลี้ยง ผลสด ส่วนมำกมี 4-6 เมล็ด
                ใบมีสองแบบ ใบไม่สร้ำงสปอร์ออกเป็นกระจุก จักแบบขนนกหรือมีใบประกอบย่อย
                3 ใบ รูปรี ยำวได้ถึง 10 ซม. ก้ำนใบยำว 4-8 ซม. โคนมีเกล็ดหนาแน่น แผ่นใบ  สกุล Leea เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Leeaceae ปัจจุบันอยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Leeaoideae
                ด้านล่าง ขอบใบ และก้านใบมีขนหนาแน่น ใบที่โคนรูปขอบขนำนหรือรูปรีกว้ำง  มีประมาณ 34 ชนิด พบในแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ในไทย
                เบี้ยว ยำวได้ถึง 3 ซม. ปลำยมนกลม โคนเว้ำตื้นหรือเป็นติ่งกลม ยำวได้ถึง 7 มม.   มี 11 ชนิด ชื่อสกุลตั้งตามนักพืชสวนชาวสกอตแลนด์ James Lee (1715-1795)
                ใบช่วงปลำยรูปขอบขนำน ยำวได้ถึง 7 ซม. ปลำยมน โคนรูปลิ่มกว้ำง ขอบจักมน  หลายชนิดมีสรรพคุณด้านสมุนไพร
                หรือจักเป็นพูตื้น ๆ รูปกลมแกมสำมเหลี่ยม ใบสร้างสปอร์ใบตั้งตรง ก้ำนยำวได้ถึง
                25 ซม. มีเกล็ดประปรำย มีใบย่อย 3 ใบ ยาวได้ถึง 5 ซม. ใบข้างเรียวแคบ สั้น   กะตังใบ
                โคนมักเป็นติ่ง ใบปลายรูปแถบ กว้ำงประมำณ 2.5 มม. ขอบมีขนประปรำย   Leea indica (Burm. f.) Merr.
                กลุ่มอับสปอร์เรียงทั่วทั้งแผ่นใบด้านล่าง ยกเว้นขอบใบ   ชื่อพ้อง Staphylea indica Burm. f.
                   พบที่อินเดีย ศรีลังกำ จีนตอนใต้ ไห่หนำน ไต้หวัน ภูมิภำคอินโดจีนและ  ไม้พุ่ม รอเลื้อย หรือไม้ต้น สูงได้ถึง 7 ม. กิ่งมีช่องอำกำศ หูใบมีปีกรูปไข่กลับ
                มำเลเซีย ฟิลิปปินส์ และหมู่เกำะแปซิฟิก ในไทยพบทุกภำค ขึ้นตำมป่ำดิบแล้ง  ยาวได้ถึง 6 ซม. ใบประกอบ 1-3 ชั้น ใบประกอบย่อยมีได้ถึง 4 คู่ แกนกลำง
                และป่ำดิบชื้น ควำมสูงถึงประมำณ 500 เมตร              ยำว 9-70 ซม. ก้ำนยำว 7-34 ซม. ใบย่อยรูปไข่ แกมรูปขอบขนำนหรือรูปใบหอก

                40






        59-02-089_001-112 Ency_new1-3_J-Coated.indd   40                                                                  3/1/16   5:27 PM
   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65