Page 64 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 64
กะออก
กะออก สารานุกรมพืชในประเทศไทย 1.5-6 ซม. ก้านดอกยาว 1-4 มม. ใบประดับรูปใบหอกขนาดเล็ก ใบประดับย่อยมี
Artocarpus elasticus Rienw. ex Blume 1 คู่ รูปเส้นด้าย ยาว 1-2 มม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ แฉกลึกเกือบจรดโคน ยาวประมาณ
3.5 มม. ดอกรูปแตร สีม่วง ยาว 1-1.3 ซม. หลอดกลีบดอกเรียวแคบ กลีบบนจัก
วงศ์ Moraceae 2 พู กลีบล่าง 3 กลีบ ปลายเว้าตื้น ด้านในมีขนอุยสีขาว เกสรเพศผู้อันสั้น 2 อัน
ไม้ต้น สูงได้ถึง 45 ม. โคนต้นมีพูพอน แยกแพศร่วมต้น น�้ายางสีขาว กิ่งมีช่องอากาศ อันยาว 2 อัน ไม่ยื่นพ้นปากหลอดกลีบดอก รังไข่เกลี้ยง ก้านเกสรเพศเมียเรียวยาว
หูใบรูปขอบขนาน ยาว 4-20 ซม. หุ้มยอด มีขนยาว ใบเรียงเวียน ใบอ่อนขอบจักลึก ยอดเกสรจัก 2 พู ผลแห้งแตก รูปรี ยาวประมาณ 3 มม.
3-5 พู ใบแก่รูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาว 13-60 ซม. ก้านใบยาวได้ถึง 10 ซม. พบในภูมิภาคอินโดจีน ในไทยพบทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ช่อดอกเพศผู้แบบช่อเชิงลด ออกเดี่ยว ๆ รูปทรงกระบอก ยาว 6-15 ซม. ก้านช่อ และภาคตะวันออก ขึ้นตามที่โล่งที่ชื้นแฉะ ความสูงไม่เกิน 200 เมตร ส่วนต่าง ๆ
หนา ยาว 3.5-7.5 ซม. มีขนประปราย กลีบรวมเป็นหลอดสั้น ๆ ปลายจักตื้น ๆ ให้น�้ามันหอมระเหย มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ
2 พู เกสรเพศผู้ 1 อัน ยาวประมาณ 1 ซม. ช่อดอกเพศเมียแบบช่อกระจุกแน่น
สกุล Limnophila R. Br. เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Scrophulariaceae มีประมาณ 40 ชนิด
ออกเดี่ยว ๆ ตามซอกใบ รูปรี ก้านช่อหนา ยาว 4.5-12 ซม. มีขนประปราย กลีบรวม พบในแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ในไทยมีประมาณ 20 ชนิด
เป็นหลอดสั้น ๆ มีขนรูปลิิ่มแคบหรือรูปเส้นด้าย ยาว 0.6-1.2 ซม. ยอดเกสรเพศเมีย ส่วนมากเป็นพืชนำ้า ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “limne” ที่ชื้นแฉะ และ “philos” ชอบ
แยก 2 แฉก ช่อผลรูปรีกว้าง ยาว 6-17 ซม. ปลายกลีบรวมติดบนผนังช่อด้านนอก หมายถึงพืชที่ชอบขึ้นตามที่ชื้นแฉะ
มี 2 ขนาด ผนังช่อชั้นกลางนุ่ม ผลย่อยรูปรี ยาว 0.8-1 ซม.
พบที่พม่า ภูมิภาคมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ (ปาลาวัน) ในไทยพบทางภาคเหนือที่ เอกสารอ้างอิง
ตาก ภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่ชลบุรี ภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่กาญจนบุรี และภาคใต้ Yamazaki, T. (1990). Scrophulariaceae. In Flora of Thailand Vol. 5(2): 171.
ขึ้นตามป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น ความสูงระดับต�่า ๆ ผลสุกและเมล็ดกินได้
สกุล Artocarpus J. R. Forst. & G. Forst. อยู่ภายใต้เผ่า Artocarpeae แยก
เป็นสกุลย่อย Artocarpus และ Pseudojaca ตามการเรียงตัวของใบแบบเรียง
เวียนหรือเรียงสลับระนาบเดียว หูใบขนาดใหญ่หุ้มยอดหรือหูใบขนาดเล็กด้าน
ข้าง และช่อผลมีหนามหรือเรียบ ตามลำาดับ มีประมาณ 45 ชนิด ส่วนใหญ่พบ
ในภูมิภาคมาเลเซีย ในไทยมีพืชพื้นเมือง 12 ชนิด เป็นไม้ผลต่างถิ่น 2 ชนิด คือ
สาเก A. altilis (Parkinson) Fosberg มีถิ่นกำาเนิดในฟิลิปปินส์ หมู่เกาะโมลุกกะ
นิวกินี และขนุน A. heterophyllus Lam. มีถิ่นกำาเนิดในอินเดีย ส่วนจำาปาดะ A.
integer (Thunb.) Merr. ที่นิยมปลูกทางภาคใต้ พบกระจายทั่วไปในป่าดิบชื้น กะออม: ใบเรียงตรงข้าม โคนเว้าตื้น ๆ ดอกออกเป็นกระจุกคล้ายช่อซี่ร่ม หลอดกลีบมีสันเป็นครีบ ดอกรูปแตร
ระดับต่ำา ๆ ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “artos” ขนมปัง และ “kapos” ผล หมาย กลีบบนจัก 2 พู กลีบล่าง 3 กลีบ ปลายเว้าตื้น ด้านในมีขนอุยสีขาว (ภาพ: ทองผาภูมิ กาญจนบุรี - SSi)
ถึงผลของสาเกที่มีแป้งนำาไปปรุงอาหารให้รสชาติเหมือนขนมปัง
กันเกรา, สกุล
เอกสารอ้างอิง
Berg, C.C, E.J.H. Corner and F.M. Jarrett. (2006). Moraceae: genera other Fagraea Thunb.
than Ficus. In Flora Malesiana Vol. 17(1): 88. วงศ์ Gentianaceae
Berg, C.C., N. Pattharahirantricin and B. Chantarasuwan. (2011). Moraceae.
In Flora of Thailand Vol. 10(4): 484-485. ไม้พุ่ม ไม้ต้น หรือไม้เถา บางครั้งอิงอาศัย ใบเรียงตรงข้าม แผ่นใบส่วนมากหนา
เส้นแขนงใบไม่ชัดเจน หูใบรูปติ่งหู ดอกออกเดี่ยว ๆ หรือเป็นช่อแบบช่อกระจุก
กลีบเลี้ยงหนา มี 5 กลีบ เรียงซ้อนเหลื่อม กลีบดอกหนา เชื่อมติดกันเป็นหลอด มี
5 กลีบ สั้นกว่าหลอดกลีบ เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดภายในหลอดกลีบดอก รังไข่มี
2 ช่อง ก้านเกสรเพศเมีย 1 อัน โคนก้านติดทนในผล ผลสดมีหลายเมล็ด เมล็ด
เป็นเหลี่ยม
สกุล Fagraea Thunb. เคยอยู่ภายใต้วงศ์ Loganiaceae มีประมาณ 75 ชนิด
พบในเอเชีย และออสเตรเลีย ในไทยมี 6 ชนิด ชื่อสกุลตั้งตามนักพฤกษศาสตร์
ชาวสวีเดน Jonas Theodorus Fragraeus (1729-1797)
กันเกรา
กะออก: กิ่งมีช่องอากาศ หูใบหุ้มยอดจนมิด มีขนยาว ช่อดอกเพศผู้แบบช่อเชิงลด ดอกเพศเมียออกเป็นช่อกระจุกแน่น
ในผลปลายกลีบรวมติดบนผนังช่อด้านนอก มี 2 ขนาด (ภาพ: น�้าตกโคคลาน ตรัง - RP) Fagraea fragrans Roxb.
ไม้ต้น สูงได้ถึง 30 ม. เปลือกแตกเป็นร่อง หูใบยาว 1-2 มม. ใบเรียงตรงข้าม รูปรี
รูปขอบขนาน แกมรูปไข่หรือรูปไข่กลับ ยาว 7-11 ซม. ปลายแหลมหรือยาวคล้ายหาง
เส้นแขนงใบข้างละ 5-9 เส้น ช่อดอกแบบช่อกระจุก ยาว 4-12 ซม. ก้านช่อยาว
2-6.5 ซม. ก้านดอกยาว 3-6 มม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ ยาว 2-3 มม. ปลายกลีบกลม
ดอกรูปแตร สีครีมเปลี่ยนเป็นสีเข้มก่อนร่วง หลอดกลีบดอกยาว 0.7-1.2 ซม.
กลีบรูปขอบขนาน ยาว 5-8 มม. พับงอกลับ เกสรเพศผู้ 5 อัน ยื่นพ้นปากหลอด
กลีบดอก ก้านชูอับเรณูแผ่กว้าง ยาว 1.5-2 ซม. ก้านเกสรเพศเมียยาวได้ถึง 6 ซม.
สาเก: ใบแก่แฉกลึก (ภาพซ้าย: cultivated - RP); จ�าปาดะ: ก้านช่อไม่ขยายเป็นขอบ (ภาพขวา: ยะลา - RP) ยอดเกสรเพศเมียรูปโล่หรือจัก 2 พู ผลสดมีหลายเมล็ด เส้นผ่านศูนย์กลาง 5-8 มม.
กะออม สุกสีเหลืองหรืออมแดง ปลายมีติ่งแหลม เมล็ดขนาดประมาณ 1 มม. เป็นเหลี่ยม
พบที่อินเดีย พม่า ภูมิภาคอินโดจีนและมาเลเซีย นิวกินี ในไทยพบทุกภาค
Limnophila geoffrayi Bonati ขึ้นตามชายฝั่งทะเล ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น เป็นไม้ประดับหรือ
วงศ์ Plantaginaceae ไม้ข้างถนน ดอกมีกลิ่นหอม เปลือกและดอกใช้แก้พิษงู ใบแก้ไข้และโรคปวดข้อ
ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 35 ซม. ล�าต้นและกิ่งมีขน ใบเรียงตรงข้าม รูปรี รูปไข่ หรือ
รูปใบหอก ยาว 1-3 ซม. โคนสอบเรียวจรดล�าต้น ขอบใบจักฟันเลื่อยห่าง ๆ เอกสารอ้างอิง
Griffin, O. and J. Parnell. (1997). Loganiaceae. In Flora of Thailand Vol. 6(3):
แผ่นใบด้านบนสาก มีจุดโปร่งแสงด้านล่าง ช่อดอกแบบช่อกระจะ ก้านช่อยาว 198-199.
44
59-02-089_001-112 Ency_new1-3_J-Coated.indd 44 3/1/16 5:09 PM