Page 66 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 66

กัลปพฤกษ์
                                    สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                                                                     กากหมากตาฤาษี, สกุล
                                                                     Balanophora J. R. Forst. & G. Forst.
                                                                     วงศ์ Balanophoraceae
                                                                       ไม้ล้มลุกกินซาก เบียนราก ไม่มีคลอโรฟิลล์ ไม่มีระบบราก ส่วนหัวติดกับราก
                                                                     พืชที่ให้อาศัย แยกเพศร่วมต้นหรือต่างต้น ใบคล้ายเกล็ด เรียงเวียน เรียงตรงข้าม
                                                                     สลับตั้งฉาก หรือเรียงสลับระนาบเดียว ช่อดอกออกที่ปลายล�าต้น รูปรี รูปไข่กลับ กลม
                                                                     หรือคล้ายรูปกระบอง ใบประดับคล้ายกาบ ช่อดอกเพศผู้คล้ายช่อเชิงลดหรือ
                                                                     ช่อกระจะ ช่อดอกเพศเมียคล้ายช่อเชิงลด ดอกเพศผู้กลีบรวมส่วนมากมี 3-6 กลีบ
                                                                     ใบประดับย่อยปลายตัด เกสรเพศผู้ 3-5 อัน เชื่อมติดกัน ดอกเพศเมียจ�านวนมาก
                                                                     ไม่มีกลีบรวม รังไข่มีช่องเดียว ติดบนแกนช่อดอก ก้านเกสรเพศเมีย 1 อัน ติดทน
                                                                     ผลแห้งไม่แตก ขนาดเล็ก
                                                                       สกุล Balanophora มีประมาณ 15 ชนิด ส่วนใหญ่พบในเขตร้อน ในไทยมี 5-6 ชนิด
                  กันภัยมหิดล: ใบประกอบ ใบย่อยเรียงตรงข้าม ปลายมีติ่งแหลม หูใบรูปเคียว กลีบดอกกลีบกลางด้านในมีสีเข้ม มีสี
                เหลืองแต้มใกล้โคน (ภาพ: cultivated - RP)               ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “balanos” กาบรูปถ้วย และ “phoros” เกิด ตามลักษณะ
                                                                       ช่อผลที่มีใบประดับคล้ายกาบรูปถ้วย
                กัลปพฤกษ์
                Cassia bakeriana Craib                               กากหมากตาฤาษี
                วงศ์ Fabaceae                                        Balanophora fungosa J. R. Forst. & G. Forst.
                   ไม้ต้น สูงได้ถึง 15 ม. มีขนกิ่งตามกิ่งอ่อน แผ่นใบ ใบประดับ กลีบเลี้ยง และฝัก   ไม้ล้มลุกกินซาก แยกเพศต่างต้น หัวใต้ดินออกเดี่ยว ๆ หรือแยกแขนง
                ใบประกอบยาว 15-40 ซม. มีใบย่อย 5-8 คู่ ใบย่อยรูปขอบขนานหรือรูปใบหอกกลับ   จ�านวนมาก กลม ๆ ผิวมีตุ่มรูปดาวกระจาย ใบเรียงเวียน เรียงซ้อนเหลื่อม 10-20 ใบ
                ปลายกลมมีติ่งแหลม โคนกลม ก้านใบยาวประมาณ 2 มม. ช่อดอกแบบช่อกระจะ   ช่อดอกเพศผู้รูปรีกว้าง ยาวได้ถึง 12 ซม. ใบประดับคล้ายกาบรูปรีกว้าง ปลายตัด
                ยาว 5-12 ซม. ออกตามซอกใบที่หลุดร่วง ใบประดับและใบประดับย่อยสีแดง  ยาวประมาณ 5 มม. ก้านดอกย่อยยาว 0.7-1 ซม. กลีบรวมมี 4-5 กลีบ รูปรีแกม
                อมน�้าตาล กลีบเลี้ยงรูปใบหอกยาว 0.9-1.2 ซม. ดอกสีขาวอมชมพู กลีบรูปใบหอก  รูปใบหอก ยาว 3-7 มม. เกสรเพศผู้ 4-5 อัน คล้ายรูปเกือกม้า ช่อดอกเพศเมีย
                แกมรูปไข่ ยาว 3.5-4.5 ซม. เกสรเพศผู้อันยาว 3 อัน โค้งงอ ก้านชูอับเรณูยาว   รูปรีหรือรูปไข่กลับ มักมีขนาดเล็กกว่าช่อดอกเพศผู้ ยาวได้ถึง 6 ซม.
                3.5-5 ซม. ป่องกลาง อันสั้น 4 อัน ก้านชูอับเรณูยาวประมาณกึ่งหนึ่งของอันยาว
                แต่อับเรณูยาวกว่าประมาณ 2 เท่า 3 อันลดรูป ยาว 1-1.5 ซม. อับเรณูขนาดเล็ก   พบที่อินเดีย ไห่หนาน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ภูมิภาคอินโดจีนและมาเลเซีย ฟิลิปปินส์
                รังไข่ยาวประมาณ 4 ซม. ก้านยาว 1-1.5 ซม. ฝักยาว 30-40 ซม. มี 30-40 เมล็ด   นิวกินี ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ความสูงถึงประมาณ 2000 เมตร มีความ
                (ดูข้อมูลเพิ่มเติมทีี่ ราชพฤกษ์, สกุล)               ผันแปรสูง บางครั้งแยกเป็น 2 ชนิดย่อยตามลักษณะหัวใต้ดินและช่อดอก ยางเหนียว
                                                                     จากหัวใต้ดินใช้ท�ากับดักนก ใช้เป็นคบไฟ
                   พบที่พม่า ในไทยพบกระจายห่าง ๆ ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้
                ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ และป่าดิบแล้ง ความสูง 300-1000 เมตร เป็นไม้ประดับ   เอกสารอ้างอิง
                ดอกมีขนาดใหญ่ที่สุดในสกุล Cassia ของไทย                Hansen, B. (1972). Balanophoraceae. In Flora of Thailand Vol. 2(2): 177-181.
                                                                       Perry, L.M. (1980). Medicinal plants of East and Southeast Asia. Massachusetts
                                                                          Institute of Technology.
                  เอกสารอ้างอิง
                   Larsen, K., S.S. Larsen and J.E. Vidal. (1972). Leguminosae-Caesalpinioideae.
                      In Flora of Thailand Vol. 4(1): 105.










                  กัลปพฤกษ์: ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตามกิ่งข้าง ๆ กลีบดอกมีก้าน เกสรเพศผู้ 3 อัน โค้งงอ ป่องกลาง อันสั้น   กากหมาก: ช่อดอกเพศผู้คล้ายช่อเชิงลด ใบประดับรูปไข่กว้าง (ภาพซ้าย ช่อดอกเพศผู้: เชียงใหม่, ภาพขวา
                4 อัน แต่อับเรณูยาวกว่าอันยาว (ภาพ: cultivated - SSi)  ช่อดอกเพศเมีย: น�้าหนาว เพชรบูรณ์; - SSi)
                กากหมาก
                Balanophora latisepala (Tiegh.) Lecomte
                  ชื่อพ้อง Balaniella latisepala Tiegh.
                   ไม้ล้มลุกกินซาก แยกเพศต่างต้น สูง 10-25 ซม. เหง้าแตกแขนง ผิวมีตุ่ม
                รูปดาวทั่วไป ใบเรียงสลับระนาบเดียวห่าง ๆ 3-6 ใบ ช่อดอกเพศผู้เรียวแคบ
                ยาว 5-9 ซม. เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-2.5 ซม. ใบประดับรูปไข่กว้าง กว้างประมาณ
                5 มม. บางครั้งคล้ายแยก 2 แฉก ก้านดอกยาว 1.5-6 มม. กลีบรวมส่วนมากมี
                4-5 กลีบ รูปไข่ ขนาดไม่เท่ากัน เรียง 2 แถว พับงอกลับ กลีบข้างยาว 3-3.5 มม.
                กลีบกลางกว้างยาว 3-4 มม. อับเรณูยาวประมาณ 5 มม. ช่อดอกเพศเมียคล้าย
                รูปทรงกระบอก ยาว 1-7 ซม. เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5-2 ซม.
                   พบที่พม่า ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู สุมาตรา และบอร์เนียว ในไทย
                พบทุกภาค ขึ้นเบียนรากพืชอื่นตามถิ่นที่อยู่หลากหลายรวมทั้งเขาหินปูน ความสูง
                ถึงประมาณ 1600 เมตร                                   กากหมากตาฤๅษี: ช่อดอกเพศผู้มี 3 ดอก ขนาดใหญ่กว่าช่อดอกเพศเมีย ใบประดับคล้ายกาบ (ภาพ: ดอยอ่างขาง
                                                                     เชียงใหม่ - HB)

                46






        59-02-089_001-112 Ency_new1-3_J-Coated.indd   46                                                                  3/1/16   5:10 PM
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71